สถานการณ์โรคเบาหวานทั่วโลกในปี 2564 พบว่ามีผู้ป่วยถึง 537 ล้านคนและคาดว่าในปี 2573 จะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 643 ล้านคน และโรคเบาหวานยังมีส่วนทำให้เสียชีวิตสูงถึง 6.7 ล้านคนหรือ 1 ราย ในทุก ๆ 5 วินาที ขณะที่ประเทศไทยพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 3 แสนคนต่อปี ในปี 2563 มีผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวานทั้งหมด 16,388 คน (อัตราตาย 25.1 ต่อประชากรแสนคน) และค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขในการรักษาโรคเบาหวานเฉลี่ยสูงถึง 47,596 ล้านบาทต่อปี
นางศิริญา เทพเจริญ กรรมการบริหาร PANACEE MEDICAL CENTER เปิดเผยว่า โรงพยาบาลพานาซี พระราม 2 และโรงพยาบาลโชนัน คามา คูระ (Shonan Kamakura General Hospital) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้ป่วยด้วยสเต็มเซลล์และนวัตกรรมทางการแพทย์ของประเทศญี่ปุ่น บรรลุข้อตกลงความร่วมมือการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการรักษาผู้ป่วยด้วยสเต็มเซลล์จากเลือดตัวเอง (Autologous stem cell ) ที่มีความจำเพาะในแต่ละโรค
โดยรพ.พานาซีจะนำเรื่องนวัตกรรมทางสเต็มเซลล์จากผนังหลอดเลือดมารักษาผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน สเต็มเซลล์ตัวนี้สามารถใช้ในผู้ป่วยที่เป็นถึงขั้นที่รุนแรงจนอาจจะถูกตัดขาแล้ว นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จในเรื่องหลอดเลือดสมอง หรือสโตรกด้วย เนื่องจากหลอดเลือดในร่างกายมีความสำคัญกับอวัยวะทุกส่วน ทั้งสมอง หัวใจ ถ้าเส้นเลือดดีจะช่วยให้เราแข็งแรง
เพราะเส้นเลือดเป็นตัวการที่การนำเลือดไปเลี้ยงอวัยวะทั้งระบบของร่างกาย โดยนวัตกรรมนี้จะใช้สเต็มเซลล์ที่เก็บจากเลือดของตัวเราเองจึงทำให้มีความปลอดภัยที่สุด และไม่ใช่ทำได้แค่ซ่อมแซมหลอดเลือด แต่ยังสามารถสร้างหลอดเลือดขึ้นมาใหม่ได้ด้วย เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผู้ป่วยเบาหวานมักเจอคือ อาการแผลเน่า เนื้อตาย จนต้องลามถึงการตัดขา
สเต็มเซลล์จากเลือดนี้จะเข้าไปซ่อมแซม ฟื้นฟู และสร้างหลอดเลือดขึ้นมาใหม่ ทำให้เราลดการสูญเสียอวัยวะที่เสียหายได้ ซึ่งอยากแนะนำให้มาทำก่อนมีอาการป่วย เพราะเหมือนเรามีเส้นเลือดที่สมบูรณ์อวัยวะต่างๆในร่างกายของเราก็จะสมบูรณ์ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไปด้วย
นอกจากนี้ ทางรพ.โชนัน ยังทำการวิจัยเรื่องเกี่ยวกับการรักษาโรคไต ผู้ป่วยที่กำลังทรมานต้องฟอกไต จนถึงไตวาย ถ้างานวิจัยนี้ประสบความสำเร็จ จะถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ให้กับวงการแพทย์ ดังนั้นการจับมือระหว่าง รพ.พานาซี และรพ.โชนันในครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือความร่วมมือ เราเอา Know how ของฝั่งเราแลกเปลี่ยนกับ Know how ของญี่ปุ่น
“รพ.พานาซีมีวิชันว่า เราจะลดการใช้ยาแล้วหันมาใช้สเต็มเซลล์จากตัวเองเพื่อการดูแลรักษา ซึ่งจะเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ป่วย องค์ความรู้นี้ นอกจากจะนำมาช่วยคนไทยแล้ว เรายังสามารถเป็นเซ็นเตอร์ในการรักษาพยาบาลด้านเบาหวาน และสโตรก โดยการใช้สเต็มเซลล์จากหลอดเลือดที่ประสบความสำเร็จในการรักษามาแล้วแก่ชาวไทยและชาวต่างชาติ
ประเทศไทยมีชื่อเสียงโดดเด่นเรื่องการรักษาพยาบาล ค่าครองชีพของเราก็ถูกกว่าชาติอื่น เราสามารถนำมาต่อยอดสร้างเศรษฐกิจด้าน Wellness ให้กับประเทศไทยได้ จากที่มีความฝันอยากให้ ประเทศไทยเป็น Medical Hub นี้ก็คือจุดเริ่มต้น จะเป็นจุดเล็กๆที่จะกระจายไปสู่คนไทยทั้งประเทศและชาวต่างชาติที่ตั้งใจบินมารักษาที่ประเทศไทย”
ด้านนพ.ภัทรพล คำมุลตรี รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล พานาซี พระราม 2 กล่าวว่า ความแตกต่างของ สเต็มเซลล์ที่รู้จักกันแพร่หลาย และนวัตกรรมใหม่ของสเต็มเซลล์หลอดเลือดนี้ สเต็มเซลล์โดยทั่วไปจะมีต้นกำเนิดทั่วไปไม่ได้จำเพาะกับเนื้อเยื่อใดเนื้อเยื่อหนึ่งเป็นหลัก แต่นวัตกรรมที่เราได้แลกเปลี่ยนกับทางญี่ปุ่น จะเป็นนวัตกรรมของสเต็มเซลล์ของผนังหลอดเลือดที่อยู่ด้านในของหลอดเลือด ซึ่งเราก็จะดึงจากเส้นเลือดของคนนั้นเลย แล้วนำไปสู่ขบวนการขั้นตอนต่างๆ แล้วฉีดกลับเข้าไปเพื่อฟื้นฟูในบริเวณที่เราต้องการสร้างหลอดเลือด
ซึ่งเป็นองค์ความรู้ของทาง รพ.โชนันฯญี่ปุ่น และนำมาถ่ายทอดความรู้ให้ทาง รพ.พานาซีเราได้มาดูแลผู้ป่วยในประเทศไทย โดยผลลัพธ์ในการรักษาตรงนี้ จะดีกว่าใช้สเต็มเซลล์ทั่วๆไปที่ไม่จำเพาะในการรักษาหลอดเลือด ซึ่งถือว่า สเต็มเซลล์ตัวนี้เหนือกว่า เพราะไปจำเพาะที่หลอดเลือดโดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นแผลเบาหวาน ใกล้ที่จะอยู่ในภาวะตัดขาหรือตัดอวัยวะส่วนต่างๆ จึงถือเป็นทางออกที่ผู้ป่วยควรจะได้รับ
MR.TAKESHI MIYAZAWA (CHIEF EXECUTIVE OFFICER OF VASRE AXIA) จาก รพ.โชนัน คามาคูระ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า ก่อนที่จะมาจับมือกับทางพานาซีเรื่องสเต็มเซลล์หลอดเลือดนี้ ทางรพ.โชนันฯเราได้มีการรีเสิร์ทข้อมูลโรงพยาบาลต่างๆในประเทศไทยแล้ว แต่พอได้มาเจอ รพ.พานาซี ผมมีความหวังและความตั้งใจว่าอยากร่วมงานกับพานาซีอย่างเต็มที่เพราะพานาซีมีความพร้อมและเชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้ว
เนื่องจากทาง รพ.โชนัน คามาคูระ อยากจะช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาคนป่วยให้หายจากโรคนี้ อีกทั้งเรายังมีโปรเจคในอนาคตร่วมกับ พานาซี ที่อยากร่วมกันวิจัยและพัฒนาเพื่อให้การรักษามีราคาที่ถูกลง
สำรหับการทำบันทึกความร่วมมือครั้งนี้ โรงพยาบาลโชนัน คามาคูระ ประเทศ ญี่ปุ่น จะถ่ายทอดองค์ความรู้ ให้กับทีมบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงนักวิทยาศาสตร์ของโรงพยาบาลพานาซี พระราม 2 พร้อมส่งทีมผู้เชี่ยวชาญทางด้านการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ มาประจำที่โรงพยาบาลพานาซี พระราม 2 เพื่อรองรับการให้บริการรักษาผู้ป่วยด้วยนวัตกรรมสเต็มเซลล์ตามมาตรฐานประเทศญี่ปุ่นได้ทันที
เนื่องจากเล็งเห็นว่า โรงพยาบาลพานาซี พระราม 2 มีห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยงและเก็บสเต็มเซลล์มาตรฐานสากลที่มีศักยภาพสูง ซึ่งประกอบด้วยห้องเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ clean room class 100 และ class 10000 ทำให้สเต็มเซลล์ที่ผ่านการเพาะเลี้ยงจากห้องปฏิบัติการนี้ปราศจากเชื้อและปลอดภัย โดยการรักษาโดยเรื่องสเต็มเซลล์หลอดเลือดนี้จะสามารถให้การบริการดูแลผู้ป่วยได้ตั้งแต่ เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป