จากสภาพอากาศที่ร้อนของประเทศไทยในช่วงนี้ โดยกรมอุตตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า อุณหภูมิในปี 2566 นี้จะขึ้นไปแตะสูงสุดถึง 40-43 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว จากสภาพอากาศที่ร้อนปรอทแตกเช่นนี้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพเสี่ยงเป็นโรคฮีตสโตรก (Heat Stroke) หรือ โรคลมแดดซึ่งเป็นโรคที่มีอันตรายถึงชีวิตได้
สาเหตุของ "โรคฮีทสโตรก" (Heat Stroke)
1. ความร้อนจากภายนอก เช่น แสงแดด หรือที่ที่มีอุณหภูมิสูง
2. ความร้อนจากภายใน คือ ความร้อนภายในร่างกาย ที่เกิดจากการเผาผลาญจะทำให้เกิดความร้อนภายในร่างกาย
ทั้งนี้ อาจเป็นไปได้ทั้ง 2 อย่าง โดยปรกติอุณหภูมิร่างกายเราจะอยู่ที่ 36-37.5 องศาเซลเซียส แต่พอเจอกับสภาพอากาศร้อน ๆ ร่างกายก็จะพยายามหาทางจัดการกับความร้อน
ร่ายกายจะปรับตัวมีการสูบฉีดโลหิต และหัวใจเต้นแรงขึ้น เลือดจะไปเลี้ยงที่ผิวหนังมากขึ้น เส้นเลือดที่ผิวหนังขยายตัว ต่อมเหงื่อทำงานมากขึ้น ทำให้มีเหงื่อออกมากร่างกายก็จะเสียน้ำ พอร่างกายขาดน้ำมากๆ ร่างกายจะนำเลือดไปเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญแทน พอถึงจุดนึงเลือดก็จะไปเลี้ยงไม่พอ
จากนั้นไต ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่มีหน้าที่กรองของเสีย และกำจัดเกลือแร่ ก็จะทำงานหนักของเสียในร่างกายก็คั่นค้าง ทำให้เกลือแร่ในร่างกายผิดปรกติไปจนทำให้เกิดไตวาย
ความแตกต่างระหว่าง โรคฮีทสโตรก และเป็นลม
คนที่เป็นโรคลมแดดตัวจะแห้ง เนื่องจากเหงื่อออกไปเยอะจนไม่มีจะออกแล้ว และตัวจะร้อนมากอุณหภูมิร่างกายพุ่งสูงมาก อาจสูงขึ้นมากกว่า 40 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
อาการสำคัญของโรคฮีทสโตรก
กลุ่มเสี่ยง โรคฮีทสโตรก
การป้องกัน
การดูแลผู้ป่วยโรคลมแดด
เมื่อพบเจอผู้ป่วยโรคลมแดด ควรปฏิบัติดังนี้
ข้อมูล โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน