วิธีใช้สิทธิบัตรทอง บัตร 30 บาท ฝังรากฟันเทียม - ฟันปลอม

ผู้ที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับฟัน หรือสูญเสียฟันนั้น ย่อมส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งด้านการรับประทานอาหาร การบดเคี้ยวอาหาร ไปจนถึงความมั่นใจในการใช้ชีวิต และการมีบุคลิกภาพที่ดี จึงมีความจำเป็นต้องใส่ฟันเทียม และบางคนจำเป็นต้องใส่รากฟันเทียม

รากฟันเทียม คือ รากฟันที่สร้างขึ้นใช้ทดแทนรากฟันธรรมชาติ เพื่อยึดฟันเทียมให้แน่นขึ้น ส่งผลให้ฟันเทียมแน่นกระชับ ไม่หลวมหลุด เคี้ยวอาหารดีขึ้น ,ไม่มีปัญหาฟันเทียมหลวมหลุดขณะพูด และยังทำให้ผู้ใส่ฟันเทียมรู้สึกมั่นในในการเข้าสังคม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สิทธิบัตรทอง 30 บาท) ได้มีบริการ ใส่ฟันเทียม สำหรับคนที่ไม่มีฟัน ทุกสิทธิการรักษา และ ฝังรากฟันเทียม สำหรับผู้ที่ใส่ฟันเทียมทั้งปากแล้วหลวม และทันตแพทย์ประเมินว่าจำเป็นต้องฝังรากเทียม ภายใต้ชื่อโครงการ “โครงการฟันเทียม รากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567”  

ขั้นตอนการเข้ารับบริการ

กรณีฟันเทียม 

คนไทยทุกคนที่สูญเสียฟันทั้งแบบบางซี่ หรือทั้งปากสามารถ ติดต่อใส่ฟันเทียมที่
สถานพยาบาลตามสิทธิการรักษา รับบริการได้ทุกสิทธิการรักษา ทั้งสิทธิบัตรทอง ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ โดยมีเป้าหมายบริการปี 2566 - 2567 จำนวน 72,000 ราย 

กรณีรากฟันเทียม

กรณีใส่ฟันเทียมทั้งปากและทันตแพทย์พบว่ามีการละลายตัวของกระดูกขากรรไกรมากจนไม่สามารถใส่ฟันเทียมตามวิธีปกติได้ หรือเมื่อใส่ฟันเทียมไปแล้ว ภายหลังต่อมา หลวม หลุดง่าย ไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ทันตแพทย์จะทำการปรับแก้ จนกระทั่งไม่สามารถปรับแก้ได้แล้ว จึงจะพิจารณาให้ใส่รากฟันเทียมหรือส่งต่อท่านไปรับการฝังรากนเทียมที่โรงพยาบาลของรัฐที่เข้าร่วมโครงการ ใช้สิทธิฝังรากฟันเทียมได้เฉพาะผู้ที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสิทธิบัตรทองบัตร 30 บาท เท่านั้น ซึ่งต้องให้ทันตแพทย์ที่สถานพยาบาลตามสิทธิการรักษา ประเมินถึงความจำเป็นที่ต้องรับการฝังรากฟันเทียม

ตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาลรัฐที่เข้าร่วมโครงการฝังรากฟันเทียม คลิกที่นี่

การฝังรากฟันเทียมนั้น ทันตแพทย์จะตรวจช่องปากและวางแผนการรักษา จากนั้นจะนัดมาฝังรากฟันเทียมโดยการฉีดยาชาเฉพาะที่เหมือนการถอนฟัน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง