ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสเฟซบุ๊กส่วนตัว (ธีระวัฒน์เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha) โดยมีข้อความระบุว่า ควัน มหันต์ภัย สังคมไทย
หมอธีระวัฒน์หยิลยกข้อมูลจากศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ ปี 2560 ซึ่งระบุว่า คนไทยยังสูบบุหรี่อยู่มากถึง 10.7 ล้านคนหรือ 19.1% ถึงจะลดน้อยลงมากว่าปีก่อนๆ แต่ก็ยังถือว่ามากโข จนปีนี้ 2566 ลูกเด็กเล็กแดง คนโต คนแก่ก็ยังสูบ
สำหรับผลเสียของบุหรี่มีมากมาย ได้แก่
ในบุหรี่มีสารเคมีอันตรายอยู่ถึง 250 ชนิด อย่างน้อย 69 ชนิดนั้นก่อมะเร็ง และเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอด คอ ปาก ไต กระเพาะ กระเพาะปัสสวะ ตับ ตับอ่อน ปากมดลูก ลำไส้ ลูคีเมียและอื่นๆ
ส่วนทำไมถึงเป็นมะเร็งอื่นๆ นอกจากปอด เพราะว่าสารเคมีมันซึมเข้าไปทางเลือดผ่านจากปอด
และสารเคมีพวกนี้ก็เข้าไปทำลายดีเอ็นเอในร่างกายเราและเมื่อต้องมีการซ่อมแซมมากขึ้น
โอกาสที่จะซ่อมแล้วมันผิด ทำให้เซลล์โตแบบไม่มีการควบคุมในที่สุดยิ่งสูบนานก็ยิ่งเสี่ยงเยอะ
นอกนั้นยังเพิ่มความเสี่ยงโรคถุงลมโป่งพอง (Chronic obstructive pulmonary disease) ซึ่งเป็นการตายอย่างช้าๆ และทรมานเปรียบเหมือนจมน้ำ
สาเหตุก็คือบุหรี่ไปทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและการลดความยืดหยุ่นของปอดเพราะมีการกระตุ้นตัวย่อยสลายเนื้อเยื่อปอด (protease) แล้วยังมีโรคหัวใจ เส้นเลือดโป่งพองจนแตกตาย กับอัมพาตอีก ยังมีอีกเยอะ
หมอธีระวัฒน์ ยังได้บอกถึงสาวที่พยายามมีทายาทแต่ไม่ท้อง โดยแนะนำว่าวิธีที่ดีที่สุดคือหยุดบุหรี่ ดีต่อลูกด้วยไม่เช่นนั้นลูกเกิดมาก่อนกำหนด น้ำหนักน้อยเพดานปากแหว่ง
ขณะที่ผู้ไม่สูบเองแต่คนนั่งข้าง ๆ สูบก็อย่านิ่งนอนใจเพราะดมควันก็เพิ่มความเสี่ยงที่กล่าวมาเหมือนกันหรือมีลูกน้อยอยู่ลูกดมควันก็มีโอกาสตายเฉียดพลับและติดเชื้อในปอด ได้ง่ายขึ้น
ด้านผู้ที่ยังสูบอยู่ ไม่ว่าจะสูบมานานแค่ไหน แต่เลิกตอนนี้ ย้ำว่าตอนนี้เลย หักดิบ จากนั้นความดันและการเต้นหัวใจจะกลับมาปกติในไม่กี่ชั่วโมง ในไม่กี่อาทิตย์เสมหะจะน้อยลงและหอบก็จะน้อยลง ผ่านไปหลายเดือนปอดจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เดินวิ่งก็สบายตัว
ทำติดต่อกันหลายปีความเสี่ยงมะเร็งและถุงลมโป่งพองที่กล่าวมาก็ลดน้อยลงมากมาย
ส่วนคำถามที่ว่าหากเป็นมะเร็งแล้ว ก็สูบต่อไปเหอะคลายเครียด หมอธีระวัฒน์บอกว่า แต่ถึงจะเป็นมะเร็งไม่ว่าชนิดใดหรือขั้นไหน ถ้าหยุดบุหรี่ ณ ตอนนั้นอาจจะเพิ่มโอกาสรอดได้มากถึง 40% เลยทีเดียว น่าจะเป็นเพราะบุหรี่ทำให้ร่างกายอักเสบ พออักเสบ เซลล์มะเร็งมันสามารถโตได้ดีขึ้น
การเลิกบุหรี่นอกจากดีต่อสุขภาพแล้วยังประหยัดเงินได้อีกด้วย โดยเฉพาะที่หมออยากจะเชียร์ให้ขึ้นภาษีอีกซักหน่อยให้ซองละซักสามร้อยบาท ก็ดีนะ ส่วนเงินนะ เอามาให้สาธารณะสุขเลยเพื่อรักษาโรคที่มันเกิดจากบุหรี่ ไม่ต้องไปยุ่งยากเอาไปโฆษณา
การเลิกมันยากก็จริง ต้องใจแข็งสุด ๆ
หมอธีระวัฒน์หยิบยกกรณีของเพื่อน ซึ่งพออธิบายให้ฟังตามบทความนี้แล้วก็ซึ้งใจ หรือ กลัวตายไม่รู้ จึงตัดสินใจว่า จะลดหวานและเลิกบุหรี่ ลดหวาน
ซักพักร่างกายเริ่มชิน พอไม่มีหวาน ความอยากหวานก็จะลดลงไปเอง นอกนั้นก็ไปออกกำลังกายมากขึ้น ว่ายน้ำก็ดี หรือจะอะไรก็ได้ที่ทำให้อัตราหัวใจเต้นเร็วให้ได้ซัก 3-5 ครั้งต่ออาทิตย์
หมอธีระวัฒน์ บอกชัดเจนว่า ไม่มียาปาฏิหาริย์ที่ทำให้หยุดบุหรี่ได้ แต่ก็จะมีนิโคตินมาช่วยในหลาย ๆ แบบเช่นหมากฝรั่ง แผ่นติดตัว (transdermal patch) สเปรย์ หรือ อมใต้ลิ้น นิโคตินมีข้อห้ามใช้ใน โรคหัวใจขั้นรุนแรง และอัมพาตในช่วงเดือนแรก นอกจากนั้นก็มียากินคล้ายยาคลายเครียด (Bupropion และ Varenicline) ที่ทำให้การเลิกง่ายขึ้นหน่อย
แต่ยาที่กล่าวมาสองตัวต้องให้แพทย์จ่ายเท่านั้น
ที่อยากให้ทำคือ พอทำใจได้แล้ว กำหนดวันที่จะเลิกแล้วหักดิบเลยดีสุด ไม่งั้นค่อย ๆ ลด สุดท้ายอยากมาก แล้วค่อยสูบมันยิ่งทำให้เกิดสุข (positive reinforcement) และท้อกันไปหมดพอดี ยากมากแต่อย่าพึ่งท้อ
เพราะน้ำมันกัญชาสูตรไม่เมา (CBD) อาจมีส่วนช่วยในการช่วยเลิก "บุหรี่" ด้วย