นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า วันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 66 จะมีการเลือกตั้ง ซึ่งแต่ละหน่วยเลือกตั้งอาจมีการรวมตัวกันของประชาชนกันอย่างแออัด กรมควบคุมโรคขอแนะนำประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ประกอบด้วย
สำหรับสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน - 6 พฤษภาคม 2566 พบผู้ป่วยรายใหม่รักษาตัวในโรงพยาบาล 1,699 คน เฉลี่ย 242/วัน เสียชีวิต 10 คน มีภาวะปอดอักเสบ 219 คน และใส่ท่อช่วยหายใจ 113 คน
"โควิด 19 ถูกปรับให้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง แม้ปัจจุบันจะไม่เกิดเหตุการณ์การระบาดขนาดใหญ่ และองค์การอนามัยโลกประกาศยุติภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขแล้ว แต่โควิด 19 ยังไม่หายไปไหน ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายวัน และปัจจัยเสี่ยงของการแพร่เชื้อยังคงเกิดจากการรวมกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกัน เพราะฉะนั้น มาตรการป้องกันตนเองส่วนบุคคลยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรปฏิบัติอยู่เสมอ"
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่กองระบาดวิทยา คาดการณ์ว่าจะพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ และโรค "โควิด 19" เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล แนะนำให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ควบคู่กับวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น
ตามนโยบายวัคซีนคู่สู้หน้าฝน เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคก่อนที่จะเข้าสู่ระยะการระบาด โดยวัคซีนมีประสิทธิภาพสูงสามารถลดอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ซึ่งฉีดพร้อมกันได้บริเวณต้นแขน 2 ข้าง ข้างละ 1 เข็ม โดยวัคซีนทั้ง 2 ชนิด มีความปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อย และโดยเฉพาะ 7 กลุ่มเสี่ยง ให้รีบเข้ารับวัคซีนโดยเร็ว เนื่องจากกลุ่มนี้ หากป่วยจะมีอาการหนักกว่ากลุ่มทั่วไป ได้แก่
นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าจะเป็นช่วงเวลาที่โรงเรียนเริ่มเปิดเทอม จึงขอความร่วมมือทั้งผู้ปกครองและครู ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด สถานศึกษาควรมีมาตรการคัดกรอง
และสังเกตอาการของเด็กก่อนเข้าเรียนทุกเช้า เพื่อเฝ้าระวังโรคติดต่อทางเดินหายใจ เช่น โควิด 19 ไข้หวัดใหญ่ มือ เท้า ปาก ที่มีอัตราป่วยสูงในกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน