นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบบหายใจ กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jiraruj Praise โดยมีข้อความระบุถึงความอันตรายของน้ำผลไม้ ว่า
น้ำผลไม้ ตัวพาระดับน้ำตาลพุ่งอย่างแรงในเลือด และแหล่งของน้ำตาลฟรุกโตส แบบเต็มๆ
หมอจิรรุจน์ บอกว่า ปกติแล้ว ผลไม้ทั้งลูก (Whole fruit) ตามธรรมชาติ จะมีส่วนที่เรียกว่า ใยอาหารหรือ Fiber
ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยไม่ให้คุณได้รับปริมาณน้ำตาล ทั้งซูโครส และฟรุกโตสอย่างเต็มที่
เป็นกลไกล ตามธรรมชาติสร้างสรรค์มาได้ดีอยู่แล้ว
การพยายามไปคั้น สกัดเอาแต่น้ำของเขาออกมา คือการแปรรูปแบบหนึ่ง
ซึ่ง เรานำเอาใยอาหารทิ้งไป จากการสกัด นั่นคือปัญหาของเรื่องนี้
หมอจิรรุจน์ พยายามยกตัวอย่างให้เห็นภาพโดยบอกว่า ลองคิดตามง่ายๆ ว่า น้ำส้ม 1 แก้วจะต้องใช้ส้มสักกี่ลูก
จึงจะได้น้ำส้ม 1 แก้ว แล้วกลับกัน
ถ้าต้องกินส้มทั้งลูกมากขนาดนั้น จะกินได้จริงหรือ
เห็นไหมว่า ธรรมชาติ มีกลไกลให้ลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากกินผลไม้ที่มากเกินไปอยู่แล้ว แต่มนุษย์นี่แหละทำให้เกิดปัญหา
ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด ที่พุ่งสูง (Spike) จะส่งผลต่างๆ ให้กับร่างกาย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การหลั่ง อินซูลินออกมามาก ทำให้เกิดอาหารหิวมากขึ้น
ระดับน้ำตาลที่พุ่งสูงทำให้อาจส่งผลให้ไมโตครอนเดียในเซลล์ต้องทำงานหนักในการเคลียร์น้ำตาลเหล่านี้ และเกิดการอักเสบตามมา
ยังไม่พอน้ำผลไม้ ยังมีน้ำตาลฟรุกโตสปริมาณมาก และได้แบบเน้นๆ
เพราะไม่มีใยอาหารมาขวางการดูดซึมเลย ยิ่งส่งผลให้ระบบเผาผลาญของรวนมากขึ้น การอักเสบมากขึ้น ไตรกลีเซอร์ไรด์สูงขึ้น กรดยูริกสูงขึ้น
หมอจิรรุจน์ บอกอีกว่า ส่วนตัวแล้วแนะนำผู้ที่กำลังจะซ่อมระบบเผาผลาญ จะลดความอ้วน ขจัดไขมันเกินออก ควรงดน้ำผลไม้ไปก่อน
ส่วนผลไม้ตามธรรมชาติก็กินแต่น้อย กินตามฤดูกาลเป็นดี
สำหรับคนที่สุขภาพดีอยู่แล้ว ก็พึงระวังในการดื่มน้ำผลไม้สกัดทั้งหลาย
เพราะไม่มีใครบอกได้หรอกว่า กินได้มากน้อยเท่าไหร่จึงจะปลอดภัย
แต่ส่วนตัวไม่ได้ กินน้ำผลไม้มาเป็นปี (แต่ก่อนกินหนักมาก)
ที่พูดนี้ไม่ได้ ชวนให้เกลียดน้ำผลไม้ เดี๋ยวจะดราม่าอีก
แต่ต้องการให้รู้เท่าทันสิ่งที่กิน
ระลึกไว้เสมอเวลาสิ่งเหล่านี้สร้างปัญหาให้กับร่างกาย
ในช่วงแรกอาจไม่มีอาการอะไร แต่วันที่เกิดปัญหาแม้เพียงค่าเลือดผิดปกติแต่ยังไม่มีอาการ ณ จุดนั้นจะมารีบแก้ก็ไม่รู้เลยว่า
ความเสียหายไปขนาดไหนแล้ว