กรมการแพทย์แนะวิธีเลี่ยง “มะเร็งลำไส้ใหญ่” ทำอย่างไร เช็คที่นี่

22 มิ.ย. 2566 | 05:32 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มิ.ย. 2566 | 05:32 น.

กรมการแพทย์แนะวิธีเลี่ยง “มะเร็งลำไส้ใหญ่” ทำอย่างไร เช็คที่นี่มีคำตอบ ฐานเศรษฐกิจรวบรวมไว้ให้แล้ว หลังคร่าชีวิตผู้ว่าณรงค์ศักดิ์ ระบุปัจจุบันวิถีชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมากโดยเฉพาะพฤติกรรมการบริโภค

"มะเร็งลำไส้ใหญ่" ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่เป็นสาเหตุให้ผู้ว่าณรงค์ศักดิ์  โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี หรือผู้ว่าฯหมูป่าเสียชีวิต

ประเด็นสำคัญที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการรู้นอกจากสาเหตุของการเกิด ก็คือวิธีป้องกัน หรือแนวทางหลีกเลี่ยง

ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" จะพาไปไขคำตอบเพื่อคลายข้อสงสัย

ข้อมูลจากกรมการแพทย์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ  โดยแพทย์หญิงนภา ศิริวิวัฒนากุล ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุว่า ปัจจุบันวิถีชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมากโดยเฉพาะพฤติกรรมการบริโภค เช่น อาหารไขมันสูง อาหารฟาสต์ฟู้ดต่าง ๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น การกินอาหารปิ้งย่างไหม้เกรียม 

อาหารจากน้ำมันทอดซ้ำ และเนื้อสัตว์แปรรูป ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรค อีกทั้งยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การขาดการออกกำลังกาย การมีภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน ตลอดจนการมีประวัติครอบครัวหรือตนเองเป็นติ่งเนื้อในลำไส้ เป็นต้น 

ทั้งนี้ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เริ่มจากการเกิดติ่งเนื้อในลำไส้ (polyp) และพัฒนาจนเป็นมะเร็งโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 10-15 ปี มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงมักจะไม่มีอาการในระยะเริ่มแรกของโรค จะมีอาการก็ต่อเมื่อโรคลุกลามมากขึ้นจนถึงระยะสุดท้าย ส่งผลทำให้การรักษาไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร

สำหรับอาการของโรคที่พบบ่อย ได้แก่ 

  • การถ่ายอุจจาระผิดปกติ 
  • มีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย 
  • ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง 
  • ถ่ายไม่สุด 
  • ถ่ายเป็นมูกหรือ มูกปนเลือด หรืออาจถ่ายเป็นเลือดสด 
  • ขนาดลำอุจจาระเล็กลง 
  • มีอาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืด จุกเสียด เป็นต้น 

อย่างไรก็ตาม มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเป็นมะเร็งที่สามารถตรวจคัดกรองเพื่อค้นหามะเร็งในระยะเริ่มแรกได้ ส่งผลให้การรักษาได้ผลดีและมีโอกาสหายจากโรคสูง  ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรรับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงโดยการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระปีละครั้ง 

หากผิดปกติควรได้รับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ กรณีพบติ่งเนื้อหรือความผิดปกติในลำไส้ใหญ่ แพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อบริเวณดังกล่าวเพื่อวินิจฉัยต่อไป

นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับต้นของหลายประเทศทั่วโลก ด้วยวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของประชากรส่งผลให้แนวโน้มอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำมาสู่สาเหตุการตายและปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี

"ประเทศไทยมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเป็น 1 ใน 5   ของมะเร็งที่พบมากในคนไทย มีอัตราการเกิดโรคสูงขึ้นทุกปี ปัจจุบันพบมากเป็นอันดับ 3 ในเพศชาย และอันดับ 2 ในเพศหญิง"

อย่างไรก็ดี จากข้อมูลของ MedPark Hospital ระบุว่า โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colon Cancer) คือ ชนิดของมะเร็งที่เกิดที่ลำไส้ใหญ่ (หรือที่เรียกว่าลำไส้ใหญ่โคลอน) และอยู่ส่วนปลายสุดของระบบทางเดินอาหาร บางครั้งถูกเรียกว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (colorectal cancer) เนื่องจากเกิดมะเร็งขึ้นที่ลำไส้ใหญ่และมะเร็งทวารหนัก 

มะเร็งลำไส้ใหญ่สามารถเป็นได้ทุกวัย แต่มักจะพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ มะเร็งลำไส้ใหญ่มักจะเริ่มต้นจากติ่งเนื้อเล็กๆ เรียกว่าโพลิพ (polyps) ซึ่งเป็นหนึ่งในก้อนเนื้องอกธรรมดาที่ไม่ใช่เซลล์มะเร็ง และก่อตัวด้านในลำไส้ใหญ่ หลังจากนั้น ติ่งเนื้อจะพัฒนากลายมาเป็นมะเร็ง

ในปัจจุบันมีแนวทางการรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่หลายรูปแบบอย่างเช่น การรักษาด้วยเคมีบำบัด การใช้ยารักษามะเร็งแบบตรงจุดและการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด