กรุงเทพมหานคร เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง โดยข้อมูลตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน รายงานว่ามีผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงสะสม 152 ราย ในเขตกรุงเทพมหานคร เดือนที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดคือช่วงเดือนมิถุนายน กรกฎาคมที่ผ่านมา ประมาณเดือนละ 40 คน
รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ทุกครั้งที่มีการรายงานผู้ป่วยเข้ามา สำนักอนามัย ร่วมกับ กรมควบคุมโรค จะมีการลงพื้นที่ในการสอบสวนโรค โดยขั้นตอนของการสอบสวนโรค จะรวมถึงการดูสภาพแวดล้อมของผู้ที่มีการติดเชื้อว่ามีผู้ใกล้ชิดอยู่เท่าใด และอยู่ในพื้นที่ในชุมชนในลักษณะไหน
ในกรณีมีผู้ใกล้ชิดที่อยู่ด้วยกัน ใช้พื้นที่ร่วมกัน จะทำการตรวจผู้ที่อยู่ใกล้ชิดด้วยว่า มีภาวะที่มีอาการและมีภาวะที่มีการติดเชื้อหรือไม่ ในส่วนเรื่องสภาพแวดล้อม ขั้นตอนการล้างทำความสะอาดพื้นที่นั้น สำนักอนามัยจะลงพื้นที่สื่อสาร ให้กับภาคประชาชนได้รับทราบ พร้อมทั้งบอกวิธีการปฏิบัติตนและการเฝ้าระวัง ในกรณีมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม รวมถึงการปฏิบัติตนในแง่การล้างทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ ห้องน้ำ รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ ข้อปฏิบัติที่ปลอดภัย ข้อควรระมัดระวังต่างๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยมากขึ้น
ส่วนทางด้านกรมควบคุมโรค ได้เปิดเผยภาพรวมของสถานการณ์ผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในช่วงที่ผ่านมา โดยระบุว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะยังมีความเสี่ยงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับกลุ่มที่ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) อยู่แล้ว และสามารถแพร่ต่อได้ ในช่วงแรก ประมาณ ก.ค. 2565 – เม.ย. 2566 จะเป็นต่างชาติจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ ในการติดเชื้อช่วงหลังนี้ผู้ติดเชื้อเป็นคนไทยเกือบ 100% ส่วนต่างชาติที่ติดเชื้อช่วงหลังก็เป็นการมาติดเชื้อในประเทศไทย ไม่ใช่เป็นการนำเชื้อมาจากต่างประเทศแล้ว ส่วนพื้นที่ที่มีการติดเชื้อค่อนข้างมากคือ กทม. ปริมณฑล จังหวัดท่องเที่ยว โดยข้อมูลจากรายงานระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. -15 ส.ค. 2566 มี 3 จังหวัดที่อยู่ในระดับสีแดงคือ กทม. ,นนทบุรี และ ชลบุรี