เตือน!ป่วยโรคหัวใจควรใส่ใจสุขภาพปาก เสี่ยงติดเชื้อกระแสเลือดถึงตาย

24 ส.ค. 2566 | 05:29 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ส.ค. 2566 | 05:29 น.

เตือน!ป่วยโรคหัวใจควรใส่ใจสุขภาพปาก เสี่ยงติดเชื้อกระแสเลือดถึงตาย กรมการแพทย์เผยปัญหาโรคเหงือกและฟันมีความเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ ชี้อาจเกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรียซึมเข้ากระแสเลือดทำให้เกิดพยาธิสภาพที่หัวใจ

นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า สุขภาพช่องปาก เป็นเรื่องที่ควรให้ความใส่ใจและดูแลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ เนื่องจากปัญหาโรคเหงือกและฟันมีความเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ 

ทั้งนี้ หากพบว่าในช่องปากมีโรคเหงือก ฟันผุ หรือหนองจากฟันผุทะลุโพรงประสาทฟัน จะทำให้เกิดอาการปวดฟัน รากฟันอักเสบเป็นหนอง และอาจเกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรียแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือดไปตามอวัยวะต่างๆ รวมถึงหัวใจ ทำให้เกิดพยาธิสภาพที่หัวใจได้ 

นอกจากนี้ยังส่งผลต่อระบบการกลืนอาหาร การหายใจ หรือการมองเห็น ดังนั้นการดูแลสุขภาพช่องปากจึงมีความสำคัญ ไม่เพียงเพื่อป้องกันการเกิดโรคในช่องปาก แต่รวมถึงโรคต่างๆที่อาจเกิดขึ้นตามมาจากปัญหาสุขภาพช่องปาก
 

นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวว่า สาเหตุ หรือปัจจัยเสี่ยง ที่ส่งผลทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากต่างๆ มักเกิดจากพฤติกรรมของผู้ป่วย ได้แก่ 

  • การสูบบุหรี่ ทำให้เกิดปัญหากลิ่นปาก และโรคปริทันต์อักเสบ 
  • การรับประทานของหวาน ของว่างระหว่างมื้อบ่อยๆ อาจทำให้เกิดฟันผุ ฟันผุทะลุโพรงประสาทฟัน 

เตือน!ป่วยโรคหัวใจควรใส่ใจสุขภาพปาก เสี่ยงติดเชื้อกระแสเลือดถึงตาย

  • การเคี้ยวของแข็ง ส่งผลทำให้ฟันบิ่น หรือฟันแตก 
  • การรับประทานยาหลายชนิด อาจทำให้เกิดภาวะปากแห้ง 
  • การแปรงฟันแรง แปรงฟันไม่ถูกวิธี อาจทำให้ฟันสึก หรือฟันผุ 

ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้ เพื่อลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพช่องปากในอนาคต
 

สำหรับข้อควรระวัง และการเตรียมตัวในการทำฟันของผู้ป่วยโรคหัวใจ ประกอบด้วย 

  • ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัว ขอใบรับรองแพทย์เพื่อยืนยันว่าสามารถทำฟันได้หรือไม่ รวมถึงข้อควรระวัง ชนิดของโรคหัวใจที่เป็น และยาที่รับประทานอยู่ 
  • ต้องแจ้งทันตแพทย์ทุกครั้งเกี่ยวกับชนิดของโรคหัวใจ ยาที่รับประทาน รวมถึงปัญหาที่ผู้ป่วยเคยมีในการทำฟัน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำ 
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ประจำตัวและทันตแพทย์อย่างเคร่งครัดในการปรับ หรืองดยาละลายลิ่มเลือด การเจาะเลือดก่อนการทำฟัน การรับประทานยาปฏิชีวนะก่อนทำฟัน และการปฏิบัติตนภายหลังการทำฟัน 
  • ผู้ป่วยไม่ควรหยุดยาใดๆมาเอง หากไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือทันตแพทย์ 

ขณะที่วิธีการดูแล และป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากที่ควรปฏิบัตินั้น ควรเริ่มจาก 

  • แปรงฟันอย่างถูกวิธีด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มและยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ วันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน 
  • ใช้ไหมขัดฟัน หรือแปรงซอกฟันเพื่อทำความสะอาดบริเวณด้านประชิดของฟัน 
  • ควรพบทันตแพทย์ตามนัดหมายเป็นประจำทุก 6 เดือน หากปรับพฤติกรรมที่ไม่ดีร่วมกับการดูแลฟันอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำของแพทย์ ก็สามารถช่วยลดปัญหาสุขภาพช่องปากในระยะยาวลงได้