“ไหม สปา” เสิร์ฟบริการ Holistic Well-being จับตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ONYX Hospitality Group) เปิดเผยว่า หลังวิกฤติโควิด-19 คลี่คลาย พบว่าการท่องเที่ยงเชิงสุขภาพมีสัญญานการฟื้นตัวที่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยสูงถึงปีละกว่า 20% และคาดการณ์ว่ามูลค่าของตลาดโลกด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะยังมีแนวโน้มการขยายตัวสูงขึ้นถึง 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2568

ทำให้บริษัทมั่นใจถึงศักยภาพและประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจด้านบริการท่องเที่ยวและพร้อมรุกตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ด้วยการเปิดตัวแบรนด์สปาพรีเมียม ภายใต้ชื่อ “ไหม สปา” (maai spa) ที่นำเสนอการบำบัดดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Well-being) ผ่านแนวคิดการเดินทางของเส้นไหม (Silk Journey)

โดยเปิดให้บริการแห่งแรก ณ โรงแรม อมารี ราญา มัลดีฟส์ (Amari Raaya Maldives) รีสอร์ทสุดหรูในสาธารณรัฐมัลดีฟส์ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมาและล่าสุดเปิดให้บริการ ณ โรงแรม อมารี พัทยา (Amari Pattaya) ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ Upper upscale และบริษัทมีแผนขยายสาขา “ไหม สปา” ทั้งในและต่างประเทศ โดยจะขยายสาขาต่อไปในกรุงเทพฯ และภูเก็ต

“ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตของการท่องเที่ยวสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก อีกทั้งยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวและนักเดินทางระดับลักชัวรีที่ให้ความสำคัญในด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่ Wellness Industry มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในระดับสากล และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมั่นใจว่า “ไหม สปา” จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป้าหมายซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงได้อย่างแท้จริง

ทั้งนี้มองว่าไหม สปา จะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจเรือธงด้านสปาและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่นำพาให้ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ท และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เข้าใจถึงความต้องการของตลาดท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังมีอีกหลายแบรนด์ภายใต้การดูแลที่พร้อมเอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดท่องเที่ยวได้อย่างแท้จริง”

โดยจุดเด่นของไหม สปา เป็นการนำเสนอลักชัวรีสปาภายใต้คอนเซปต์ใหม่ด้วยรูปแบบไทยร่วมสมัย (Contemporary Thai Spa) โดยนำเรื่องราวของไหมผูกโยงเข้ากับศาสตร์และศิลป์ในการบำบัดหลากหลายแขนงบนเส้นทางไหม (Silk Journey) ทั้งการทำทรีตเมนต์ที่บำรุงและฟื้นฟูทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณแบบองค์รวม (Holistic Well-being)

การนวดที่มีหลากหลายแขนง ทั้งการนวดแบบสวีดิช (Swedish Massage) การนวดแบบสปอร์ต (Sports Massage) การนวดศีรษะแบบอินเดีย (Indian Head Massage) เทคนิคการกดจุดของจีน (Reflexology) และการนวดด้วยหยก (Jade Stone Massage)

นอกจากนี้ยังมีบริการทรีตเมนต์ผิวหน้า (Facial Treatment) ที่ออกแบบเฉพาะบุคคล เป็นต้น ทำให้เชื่อมั่นว่าไหม สปา จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ และทำให้ก้าวสู่แบรนด์สปาระดับลักชัวรีของเอเชียได้อย่างแน่นอน

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,918 วันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน พ.ศ. 2566