ตลาดทันตกรรมบูม ‘เอเดลไวซ์ฯ’ ลงทุนนวัตกรรมรากฟันเทียม

17 ก.ย. 2566 | 02:45 น.
อัพเดตล่าสุด :17 ก.ย. 2566 | 02:47 น.

ชี้เทรนด์ “ทันตกรรม” ไทยพร้อมพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่ Dental Hub “เอเดลไวซ์ เดนทัลเฮ้าส์” ชูเทคโนโลยีรากฟันเทียม รับดีมานด์ ลูกค้าคนไทย กลุ่มสูงวัย ต่างชาติพุ่ง

ผศ.ทพ.ดร.อธิคม สุรินทร์ธนาสาร ผู้อำนวยการทางการแพทย์ ศูนย์ทันตกรรม “เอเดลไวซ์ เดนทัลเฮ้าส์” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันคนไทยให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพช่องปากมากขึ้น จากความใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ (Health Conscious) ประกอบกับแรงกระตุ้นจากโควิดที่ทำให้มีการดูแลความสุขภาพและสุขอนามัย การป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคมากขึ้น โดยผู้บริโภคทั่วไปพร้อมใช้จ่ายเชิงการรักษาและการป้องกัน เช่นการเอ็กซเรย์ฟันทุกปี และการขูดหินปูนปีละ 2 ครั้ง ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 3,000-4,000 บาทต่อปี

ขณะที่การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์ (Aged Society) ด้วยจำนวนประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปีมากถึง 20% และผู้สูงอายุในปัจจุบันมีความรู้และพยายามดูแลตัวเองให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ทำให้หันมาใส่ใจในเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปากเป็นอย่างมาก และพร้อมใช้จ่ายในเชิงการรักษาเช่นบริการด้านรากฟันเทียม ซึ่งค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40,000-50,000 บาท

ตลาดทันตกรรมบูม ‘เอเดลไวซ์ฯ’ ลงทุนนวัตกรรมรากฟันเทียม

“เทรนด์ของธุรกิจทันตกรรมในประเทศไทยอยู่ในช่วงการพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่ Dental Hub แบบเต็มตัว ตามแผนนโยบายการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาอัตราการเติบโตของจำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางมาใช้บริการด้านทันตกรรมในประเทศไทยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งเอเดลไวซ์ เดนทัลเฮ้าส์ เป็นศูนย์ทันตกรรมที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในเรื่องรากฟันเทียม ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงในการรักษาเพื่อให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุด ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การฝังรากเทียมผิดตำแหน่งไปโดนเส้นประสาท ซึ่งอาจทำให้คนไข้เกิดอาการชาตลอดชีวิต”

ทั้งนี้ศูนย์ให้ความสำคัญในเรื่องของเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก เพราะช่วยส่งผลโดยตรงกับการวางแผนและผลการรักษาที่ประสบผลสำเร็จ นอกจากความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์แล้ว การมีเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานและล้ำสมัยจะช่วยให้การทำงานมีความแม่นยำมากขึ้น โดยบริษัทใช้ลงทุนด้านเทคโนโลยีมากกว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่เครื่องเอกซเรย์ 3 มิติที่ช่วยเรื่องการวางแผนการทำรากเทียม

ตลาดทันตกรรมบูม ‘เอเดลไวซ์ฯ’ ลงทุนนวัตกรรมรากฟันเทียม

เครื่องสแกนฟัน 3 มิติที่ช่วยในเรื่องของการพิมพ์ปากให้มีความแม่นยำ ระบบด้ามกรอฟัน อุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษา เครื่อมือที่ใช้ในการผ่าตัดต้องได้มาตรฐาน ระบบฆ่าเชื้อที่เราใช้เป็นตามมาตรฐานยุโรป หลักๆ เทคโนโลยีของเราจะมาจากประเทศญี่ปุ่น ยุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก

ปัจจุบันศูนย์ทันตกรรม “เอเดลไวซ์ เดนทัลเฮ้าส์” ให้การบริการการรักษาทันตกรรมเฉพาะทางครบทั้ง 8 สาขา ได้แก่ รากเทียม, ครอบฟัน, ฟันปลอม, จัดฟัน, ทันตกรรมสำหรับเด็ก, รักษารากฟัน, ผ่าฟันคุด และทันตกรรมเพื่อความสวยงาม ด้วยการรักษาที่พิถีพิถันทุกขั้นตอนในราคาที่เข้าถึงได้สำหรับทุกเพศทุกวัย โดยการทำรากฟันเทียม ราคาจะขึ้นอยู่กับระบบที่ใช้ โดยเริ่มต้นที่ 38,000 บาท, การทำครอบฟันเริ่มต้นที่ 13,000 บาท ขึ้นอยู่กับวัสดุ, จัดฟันใส ราคาเริ่มต้นที่ 99,000 บาท,การทำวีเนียร์ 16,000 บาท/ซี่ และฟอกสีฟัน 10,000 บาท เป็นต้น

ตลาดทันตกรรมบูม ‘เอเดลไวซ์ฯ’ ลงทุนนวัตกรรมรากฟันเทียม

“การก่อตั้งศูนย์ความรู้ทางทันตกรรมรากเทียม หรือ “Implant Knowledge Center” แห่งนี้ขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะให้ความรู้และให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับผู้ที่มีความสนใจรวมถึงผู้ที่มีความต้องการรับการรักษาด้วยรากเทียม เพื่อให้มีความเข้าใจในการรักษา ทั้งในแง่ของขั้นตอนการรักษา ข้อดีข้อเสียของการรักษา

รวมทั้งความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่ไม่ได้ผ่านการวางแผนการรักษาที่ดี หรือไม่ใช้เทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานในการรักษา รวมถึงการจัดแสดงรากฟันเทียมของจริงที่สามารถใช้รักษา, กระดูกเทียมที่ใช้ในการปลูกกระดูกในกรณีที่กระดูกบริเวณที่จะใส่รากเทียมมีไม่เพียงพอ รวมทั้งการใส่ฟันแบบต่างๆ บนรากเทียม

เพราะเราให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยทันตแพทย์ทุกท่านจะใช้เวลาในการอธิบายและให้คำแนะนำก่อนการรักษาทุกครั้ง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในแต่ละเคสที่มีการรักษาแตกต่างกัน เพื่อคลายความกังวลแก่ผู้เข้ารับการรักษาทั้งในกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ”

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,922 วันที่ 14 - 16 กันยายน พ.ศ. 2566