จากการแถลงนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา 1 ได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านสาธารณสุข โดยยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรคให้เป็นนโยบายสำคัญที่ขับเคลื่อนภาคสาธารณสุขของไทย
หากวิเคราะห์ภาพรวมของนโยบายสาธารณสุขภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขท่านใหม่ จะพบว่า มีหลายนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการให้บริการประชาชนในกลุ่มใหญ่ และการเข้าถึงบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานและโรคที่มีอัตราการป่วยสูง
นอกจากนี้ ยังรวมถึงการขยายโรงพยาบาลรัฐให้ครอบคลุมในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่มีประชากรหนาแน่น ซึ่งในหลายนโยบายเหล่านี้ จะช่วยทำให้บริการต่างๆ นั้นมีความครอบคลุม แต่ก็จะมาพร้อมกับงบประมาณในการดูแลด้านสาธารณสุขที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ประชาชนยังสามารถนำบัตรประชาชนใบเดียวเข้ารับการรักษาได้ทั่วไทย นัดคิวออนไลน์ โดยไม่ต้องรอคิวนานๆ และสามารถตรวจเลือดจากคลินิกใกล้บ้าน และนัดหมายแพทย์ได้เลย ประกอบกับในปัจจุบันนี้ มีช่องทางการรักษาและจ่ายยาออนไลน์ สำหรับผู้ป่วยที่เข้ารับบริการโดยเฉพาะโรคเจ็บป่วยเล็กน้อยหรือการติดตามอาการ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกและลดภาระของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังมีแผนระดมฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรีให้เด็กผู้หญิงอายุตั้งแต่ 9-11 ปีทุกคน และผู้หญิงที่ยังไม่เคยรับเชื้อ HPV ซึ่งเป็นการบริการสาธารณสุขเชิงป้องกันที่ช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกมากกว่าครึ่ง การตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ในตับและไวรัสตับอักเสบซี รับยา-รักษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญเกี่ยวกับการดูแลด้านสุขภาพจิตผ่านระบบการรักษาผ่านโทรเวชกรรม หรือ Telemedicine และยังมีแผนเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลรัฐในแต่ละเขตของกรุงเทพฯ อีกด้วย
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,926 วันที่ 28 - 30 กันยายน พ.ศ. 2566