นายสิริพจน์ มาโนช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร บริษัท โรงพยาบาลเอกชล จำกัด (มหาชน) หรือ AHC เปิดเผยว่า โรงพยาบาลเอกชล ลงนามความร่วมมือกับ Id Hospital โรงพยาบาลศัลยกรรมที่มีชื่อเสียงติดอันดับท็อป 5 ในประเทศเกาหลีใต้ เปิดตัวแผนกนวัตกรรมสุขภาพและความงามครบวงจร (Wellness & Plastic surgery)
เพื่อสร้างความร่วมมือแลกเปลี่ยนความรู้ทางการแพทย์ในด้านการทำศัลยกรรมพลาสติก (Plastic Surgery) พร้อมให้ความรู้และข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อช่วยในการตัดสินใจสำหรับผู้สนใจทำศัลยกรรม รวมถึงร่วมดูแลการทำศัลยกรรมตกแต่งอย่างครบวงจร ตั้งแต่เตรียมตัวก่อนผ่าตัด การผ่าตัด และดูแลหลังผ่าตัด เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับความปลอดภัยสูงสุด
โดยโรงพยาบาลเอกชลเป็นโรงพยาบาลแรกที่จับมือกับโรงพยาบาลศัลยกรรม Id Hospital เพื่อให้คนไทยได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญและมาตรฐานการรักษาในระดับ Regional สร้างระบบการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ด้านศัลยกรรมตกแต่งแบบไร้รอยต่อที่ครบวงจร และทำงานร่วมกันเพื่อความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้รับบริการ ซึ่งทีมบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลเอกชล จะดูแลตั้งแต่การให้ความรู้การเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัด ส่งต่อไปรับการผ่าตัดที่เกาหลีโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาล Id Hospital และดูแลหลังการผ่าตัดในประเทศไทย
“การเปิดบริการแผนกดังกล่าวคาดว่าจะได้รับความนิยมจากกลุ่มเป้าหมาย และสามารถเพิ่มอัตราการใช้บริการในแผนกอื่น ๆ เพิ่มขึ้นด้วย คาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ในช่วงไตรมาส 1/67”
ทั้งนี้ รพ.เอกชลถือเป็นรพ.เอกชนแห่งแรกใน จ.ชลบุรี ได้ให้บริการสุขภาพทั้ง 4 ด้านครบวงจร ได้แก่ บริการตรวจรักษาโรค ฟื้นฟูสมรรถภาพ ป้องกันโรค และส่งเสริมสุขภาพ ส่วนโรงพยาบาลศัลยกรรม Id Hospital มีความโดดเด่นด้านความเชี่ยวชาญเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 8 แขนง ที่จำเป็นต่อการศัลยกรรม ได้แก่ ปรับแต่งรูปคาง ปากยื่น กระดูกโครงหน้า จัดแต่งฟันวิสัญญี ศัลยกรรมตาและจมูก อ่อนเยาว์และกระชับ หน้าอกและศัลยกรรมร่างกาย
นอกจากนี้ ผู้บริหารและทีมแพทย์ของ Id Hospital ยังได้จัดตั้งศูนย์ค้นคว้าวิจัย Happy Face พัฒนาวิธีการผ่าตัดในแต่ละยุค ด้วยเทคนิคที่ทันสมัยและพัฒนาเทคนิคอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบใบหน้าที่มีความสุขให้แก่ผู้รับบริการทุกคน
“รพ.เอกชลเป็นรพ.เอกชนแห่งแรกของภาคตะวันออก ที่จะมีบริการครบวงจรในอนาคต และมีแผนจะพัฒนาเทคโนโลยี เพิ่มบริการเฉพาะทางเข้ามาเสริม เพื่อขยายศักยภาพการดูแลรักษากลุ่มโรคที่มีความซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงการดูแลรักษากลุ่มผู้สูงอายุ (Aging Society) เพิ่มความสามารถการแข่งขัน ขยายฐานลูกค้าในวงกว้าง อาทิ กลุ่มคนวัยทำงาน ครอบครัว ผู้สูงอายุ ผู้รักสุขภาพและความงาม”
นายสิริพจน์ กล่าวต่อไปว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจภาคตะวันออกในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น จากประชากรแฝงที่เข้ามาอยู่อาศัยเพื่อทำงานทั้งชาวไทยและต่างชาติ ประกอบกับแนวโน้มการดูแลรักษาสุขภาพ ส่งผลให้บริการทางการแพทย์มีความต้องการเพิ่มขึ้น และเพื่อตอบสนองความต้องการครอบคลุมผู้ใช้บริการทุกเพศทุกวัย
รพ.เอกชลจึงวางแผนปรับโครงสร้างระบบปฏิบัติการ เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อยกระดับการเป็น Smart Hospital พร้อมพัฒนาบริการ อาทิ Telemedicine เป็นอีกทางเลือกในการพบแพทย์ รวมถึงปรับปรุงห้องพักผู้ป่วย ห้องผ่าตัด (OR) ห้องผู้ป่วยวิกฤต (ICU) รองรับปริมาณฐานลูกค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และมีความต้องการด้านสาธารณะสุขที่หลากหลาย ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจปีนี้ มีผู้ใช้บริการตรวจสุขภาพ ผู้ป่วยทั่วไปทั้งผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยในกลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้น
โดยปัจจุบันรพ.เอกชลมีอัตราการแอดมิท 90% การเติบโตดังกล่าว สะท้อนจากผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ โดยไตรมาส 1/66 มีรายได้ 425.16 ล้านบาท กำไร 41.96 ล้านบาท ไตรมาส 2/66 รายได้ 443.62 ล้านบาท กำไร 35.09 ล้านบาท ไตรมาส 3/66 รายได้ 485.70 ล้านบาท กำไร 57.48 ล้านบาท และงวด 9 เดือน ปี 2566 รายได้ 1,354.48 ล้านบาท กำไร 134.53 ล้านบาท