นายวรุตม์ สุทธินันท์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เอสล่า จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ด้านความงามและเวชสำอางระดับโลก เปิดเผยว่า จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามไทยปี 2566 น่าจะมีมูลค่าประมาณ 71,000-72,000 ล้านบาท เติบโต 2.3-3.6% ทยอยกลับมาฟื้นตัวภายหลังโควิดคลี่คลาย
แต่มูลค่าดังกล่าวยังไม่กลับไปเท่าก่อนโควิด และตัวเลขการเติบโตอาจไม่ได้สะท้อนผลประกอบการที่ดีขึ้นของผู้ประกอบการทุกราย ขึ้นอยู่กับการตอบโจทย์ลูกค้า ทั้งในเรื่องของค่าบริการ รสนิยม คุณภาพและมาตรฐานในการให้บริการ ที่แตกต่างกันออกไป
ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากนี้ธุรกิจดังกล่าวยังคงเผชิญกับหลายปัจจัยที่ท้าทาย โดยเฉพาะการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่อาจทำให้เกิดการแย่งชิงกันมากขึ้น และส่งผลต่อต้นทุนของธุรกิจที่สูงขึ้น
อีกทั้งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็ว หากลูกค้ามาใช้บริการน้อยและไม่สม่ำเสมอ ความคุ้มค่าด้านการลงทุนก็จะน้อยและอาจขาดทุนในที่สุด สะท้อนให้เห็นว่า การอยู่รอดหรือประสบความสำเร็จของธุรกิจในยุคที่ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย และมีทางเลือกมากขึ้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย
ล่าสุด บริษัทร่วมกับสถาบันสุขภาพและความงามตรัยญาจัดงานประชุมวิชาการเพื่ออัปเดตเทรนด์ความรู้และยกระดับมาตรฐานการแพทย์ด้านความงามในประเทศไทย ให้เท่าทันมาตรฐานสากลที่ทันสมัย เพื่อถ่ายทอดความรู้ เทรนด์เทคโนโลยีความงาม และแชร์ผลการวิจัย เทคนิคเคล็ดลับ และประสบการณ์เชิงลึกในการใช้งาน “PICOSURE” นวัตกรรม Picosecond Laser ตัวแรกของโลก จากแบรนด์ Cynosure
และ “MCL31 Dermablate” นวัตกรรมสำหรับการฟื้นฟูและปรับสภาพผิว จากแบรนด์ Asclepion ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่การันตีมาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก U.S.FDA และ Gold Standard ปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
นอกจากนี้ ยังแชร์เทคนิคการใช้งานเครื่อง เพื่อให้แพทย์ที่มาเข้าร่วมงานสามารถนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังมีการแชร์ตัวอย่างงานวิจัยและผลลัพธ์ในการรักษาร่วมกัน
โดยตั้งเป้าหมายจะร่วมขับเคลื่อนและพัฒนา ยกระดับมาตรฐานของวงการความงามในประเทศไทยให้เท่าทันมาตรฐานสากลแบบนี้ต่อไปอย่างต่อเนื่องในอนาคต