รัฐบาลประกาศเดินหน้านโยบายยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สิทธิบัตรทอง 30 บาท โดยให้ประชาชน ใช้เพียง "บัตรประชาชนใบเดียว" เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลทุกเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนที่เข้าร่วมโครงการได้ จนถึงวันนี้เดินเข้าสู่เฟสที่ 2 แล้ว รวมระยะเวลาตั้งแต่การขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยใบประชาชนใบเดียว ให้บริการประชาชนแล้วรวม 12 จังหวัด แบ่งออกเป็น
เฟสแรก เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 รวม 4 จังหวัด
1.แพร่
2.เพชรบุรี
3.ร้อยเอ็ด
4.นราธิวาส
เฟสที่ 2 เริ่มเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 รวม 8 จังหวัด
5.เพชรบูรณ์
6.นครสวรรค์
7.สิงห์บุรี
8.สระแก้ว
9.หนองบัวลำภู
10.นครราชสีมา
11.อำนาจเจริญ
12.พังงา
ทั้งนี้ สำหรับเฟสที่สองนี้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงปลายเดือนมีนาคม 2567 นี้ที่จังหวัดนครราชสีมา ในขณะที่ประชาชนใน 8 จังหวัดดังกล่าวสามารถเข้ารับบริการได้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา
สำหรับบริการที่ประชาชนจะได้รับนั้น ตามมติของคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ระบุไว้มีทั้งหมด 5 บริการด้วยกัน ประกอบด้วย
1.การใช้บัตรประชาชนใบเดียวในการรับบริการได้ทุกที่โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว
ด้วยทางกระทรวงสาธารณสุขได้นำเทคโนโลยีที่มีความล้ำหน้า ทันสมัย สามารถเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของสถานพยาบาลได้เลย ดังนั้น ผู้ป่วยจึงไม่จำเป็นต้องการเขียนใบส่งตัว ซึ่ง สปสช. ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมของระบบข้อมูลให้เชื่อมโยงถึงกันทุกแห่ง ตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้คนไทยจะต้องสามารถ ใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ ตามเป้าหมายที่กระทรวงสาธารณสุขวางไว้
2.การรักษามะเร็งครบวงจร
ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่ การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มเด็ก การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม หากตรวจพบก็จะถูกส่งต่อเข้ารับการรักษาต่อไปได้
3.การเข้าถึงบริการในเขตเมือง โดยเฉพาะ กทม.
โดยได้ทยอยเพิ่มหน่วยบริการให้มากขึ้นซึ่งเป็นจุดที่หน่วยบริการยังมีน้อย รวมทั้งการประสานร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยเชิญเอกชนเข้ามาร่วมโครงการฯเพื่อให้บริการเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ ร้านยา คลินิกการพยาบาลฯ คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม คลินิกแพทย์แผยไทย และคลินิกเทคนิคการแพทย์ ที่ขึ้นทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
4.สถานชีวาภิบาล หรือการดูแลระยะสุดท้าย
จากเดิมจะดูแลในโรงพยาบาลแต่เนื่องจากข้อมูลพบว่า มีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ต้องการกลับไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน โดยการดูแลระยะท้ายจะได้รับการดูแลโดยมีหลักวิชาการ ทั้งด้านแพทยศาสตร์และสังคมศาสตร์ซึ่งจะบูรณาการความร่วมมือทั้งหน่วยงานทางสังคม เช่น วัดในชุมชนร่วมกับโรงพยาบาล เป็นต้น
5.การดูแลสุขภาพจิต
ได้มีการพัฒนาและขับเคลื่อนลงไปในระดับชุมชน ในขณะที่ สปสช. มีสายด่วน 1330 อยู่แล้วจะเป็นตัวกลางในการประสานงาน รวมทั้งมีช่องทางให้ความรู้ ผ่านทาง เฟซบุ๊ก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ Line OA สปสช. ร่วมด้วย
คลิกตรวจสอบ รายชื่อหน่วยบริการเอกชนบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่