"สมศักดิ์" เดินหน้า พ.ร.บ.อสม. เพิ่มศักยภาพบริการประชาชน

19 พ.ค. 2567 | 09:00 น.
อัปเดตล่าสุด :19 พ.ค. 2567 | 09:01 น.

"สมศักดิ์" เดินหน้าผลักดัน พ.ร.บ.อสม.เข้าสภาฯ รองรับความมั่นคงให้ช่วยชุมชนเพื่อพัฒนาศักยภาพ อสม.ให้ช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลประชาชนขั้นปฐมภูมิ พร้อมขับเคลื่อนโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่

19 พฤษภาคม 2567 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารฯสุข ฝ่ายการเมือง กล่าวว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวระหว่างเป็นประธานร่วมในพิธีปิดโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้งที่ 9 ประจำปี 2567 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมูลนิธิธรรมาภิบาลร่วมกับแพทยสภา สถาบันมหิตลาภิเบศร์ สถาบันพระปกเกล้า ที่โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

นายสมศักดิ์ รมว.สาธารณสุข ได้พบปะพูดคุยกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) โดยกล่าวย้ำว่า มีแนวคิดสร้างความมั่นคงให้กับ อสม. ด้วยการเสนอ พ.ร.บ.อสม. เพื่อทำให้เกิดความยั่งยืนพร้อมวางแนวทางการยกระดับอัพเกรด อสม. ที่มีความเหมาะสมให้สามารถเป็นผู้ช่วยพยาบาลได้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการเสียสละเพื่อชุมชนด้วยดีตลอดมา

เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นคุณค่าของคนทำงานที่ไม่ใช่เพียงแค่ค่าตอบแทนเป็นครั้งคราวแต่เป็นการมอบความมั่นคงและยั่งยืนของความเสียสละเห็นชัดเจนตั้งแต่ช่วงเกิดวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 เมื่อปี2563-2565 มาจนถึงปัจจุบัน

อสม.นอกจากจะเป็นด่านหน้าแล้วยังเป็นด่านสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวช่วยเหลือทีมแพทย์พยาบาลในพื้นที่อย่างเต็มกำลังทั้งเป็นผู้นำยาและเวชภัณฑ์ไปจัดส่งให้ผู้ป่วยถึงบ้าน

นางสาวตรีชฎา กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้จะเป็นพลิกโฉม อสม.สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ นายสมศักดิ์มุ่งมั่นผลักดันให้ครม.เสนอร่างพ.ร.บ.อสม.เข้าสู่สภาผู้แทนฯและวุฒิสภาเพื่อยกระดับการปฎิบัติงาน พัฒนาศักยภาพ อสม.เพื่อประโยชน์ในการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลในการดูแลประชาชนด้านสาธารณสุขขั้นปฐมภูมิ

\"สมศักดิ์\" เดินหน้า พ.ร.บ.อสม. เพิ่มศักยภาพบริการประชาชน สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ  การจัดสวัสดิการต่าง ๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ การศึกษาต่อยอดจากหลักสูตรสาธารณสุข ถือเป็นการส่งเสริมกิจการ และสร้างหลักประกันให้กับ อสม.ที่ปัจจุบันมีจำนวน 1,075,163 คน แบ่งเป็น

ภาคเหนือ  271,556 คน ภาคกลาง 220,990 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 435,660 คน ภาคใต้ 146,957 คน และอาสาสมัครในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 15,000 คน ทำให้นายสมศักดิ์ก็มองเห็น จึงขับเคลื่อนให้มีการตรากฎหมาย อสม.ออกมาบังคับใช้ โดยที่หากพัฒนาระบบ อสม. ให้มีความยั่งยืน

\"สมศักดิ์\" เดินหน้า พ.ร.บ.อสม. เพิ่มศักยภาพบริการประชาชน

การออก พ.ร.บ.อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเพื่อรับรองสถานภาพ การพัฒนาศักยภาพ รวมถึงสิทธิประโยชน์และการยกระดับอื่น ๆ ช่วยอสม. ที่มีวุฒิการศึกษาที่สามารถเรียนต่อได้เป็นผู้ช่วยพยาบาล หรือบุตรหลานอีกด้วย

ทั้งนี้ คาดว่า ใช้เวลาไม่นาน มีขั้นตอนที่สภาผู้แทนราษฎรต้องรับร่างเพื่อพิจารณาต่อ โดยน่าจะใช้เวลาไม่นาน และเมื่อมีกฎหมายออกมาจะทำให้ อสม. มีความมั่นคง เข้มแข็ง เป็นการตอบแทน อสม. และที่สำคัญอสม.จะได้ทำหน้าที่ช่วยเป็นหูเป็นตาในการสอดส่องดูแลป้องกันเรื่องของยาเสพติดอีกทางหนึ่งเพื่อชี้เบาะแสผู้ค้ายาเสพติดช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อช่วยในการปราบปรามยาเสพติดอีกทางโดยมีค่าตอบแทน 5%ของรางวัลจับกุมอีกทางหนึ่งด้วย นางสาวตรีชฎา กล่าว