นพ.กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล กรรมการผู้จัดการ บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล หรือ PRINC กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 1 ต่อเนื่องมาถึงไตรมาสที่ 2/2567 ธุรกิจการรักษาพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ PRINC เติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากจำนวนผู้ป่วยเพิ่งสูงขึ้น ทั้ง IPD และ OPD ที่เข้ามารับบริการรักษาโรคยากซับซ้อนเพิ่มขึ้น ฉะนั้น บริษัทฯจึงประกาศเดินหน้าเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลเพิ่มอีก 3 แห่ง มั่นใจจบดีลไตรมาส 4 ซึ่งจะทำให้มีโรงพยาบาลในเครือรวมทั้งหมด 18 แห่งใน 14 จังหวัดครอบคลุมทั่วประเทศ โดยมีจุดแข็งของเครือโรงพยาบาลที่โดดเด่นทั้งด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการให้บริการในรูปแบบเครือข่าย ทำให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับรู้รายได้เติบโตขึ้นตามเป้าหมาย 10-15%
สำหรับการให้บริการ ยังคงมุ่งมั่นในยกระดับรักษาโรคยากและซับซ้อน ทำความร่วมมือกันกับโรงพยาบาลของภาครัฐและเอกชน ดูแลผู้ป่วยในสิทธิการรักษาด้านต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงการรักษาที่รวดเร็วและมีคุณภาพตามมาตรฐาน
โดยโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ได้มุ่งเน้นลงทุนทางด้านเทคโนโลยีด้วยอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย รองรับการพัฒนาศูนย์แพทย์เฉพาะทางรักษาด้าน "Heart - Brain - Bone" เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลในเครือเพื่อเป็นหน่วยรับรักษาส่งต่อ รวมถึงได้ปรับปรุงห้องพักคนไข้ใน (IPD) เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการ ขณะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ ก็มีแผนเปิดศูนย์เฉพาะทางรักษาโรคมะเร็ง รองรับการดูแลและรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งในพื้นที่ ตอบโจทย์การดูแลชุมชนควบคู่ไปกับสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน
ขณะที่ความคืบหน้าการขายอสังหาริมทรัพย์ในพอร์ตมูลค่ากว่า 5.9 พันล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้ PRINC สามารถเร่งเดินหน้าในการขยายธุรกิจโรงพยาบาลอย่างเต็มที่ ควบคู่กับ แผนการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจด้านเฮลท์แคร์อื่นๆ ที่มีศักยภาพและเติบโตแบบก้าวกระโดด เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน
“จากแนวโน้มจำนวนผู้ป่วย OPD และ IPD ที่เข้ารับบริการรักษาพยาบาลศูนย์แพทย์เฉพาะทางเพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณบวกต่อผลการดำเนินงานของ PRINC ในไตรมาส 2 ทำให้เติบโตต่อเนื่อง ขณะเดียวกันการขยายจำนวนโรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จะสร้างฐานผู้รับบริการให้เข้ารับบริการมากขึ้น โดยบริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักในทุกรูปแบบ เพื่อต่อยอดธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และในปี 2567 นี้ ยังคงมั่นใจว่าจะผลักดันให้ผลการดำเนินงานเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้”