ในช่วงเข้าพรรษาซึ่งตรงกับช่วงฤดูฝนมีสภาพอากาศหนาวเย็นและชื้นทำให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ง่ายนั้น โดย นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในช่วงเข้าพรรษาเป็นช่วงระหว่างตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี และสิ้นสุดลงในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ในช่วงเข้าพรรษานี้จะตรงกับช่วงฤดูฝน
ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย เรียกว่า วสันตฤดู สภาพอากาศจะมีความหนาวเย็นและชื้น หากกระทบร่างกายจะส่งผลให้ธาตุในร่างกายโดยเฉพาะธาตุลม เสียสมดุลเกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย เช่น มีอาการหวัด คัดจมูก ไอ จาม ท้องอืด ท้องเฟ้อ วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เป็นต้น
สำหรับอาหารที่เหมาะแก่การถวายพระสงฆ์ในช่วงเข้าพรรษา แนะนำให้เป็นอาหารที่มีสมุนไพร รสร้อนเป็นส่วนประกอบ เช่น พริก พริกไทย หอมแดง กะเพรา ขมิ้นขาว ข่า ขิง ตะไคร้ กระชาย ช้าพลู สามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น แกงป่า แกงส้ม ต้มยำ น้ำพริกคู่ผักเคียง ไก่ผัดขิง แกงเลียง เมี่ยงคำ ที่สำคัญควรเลี่ยงอาหารที่มีรสหวานจัด มันจัด และอาหารที่ย่อยยากเพราะเป็นสิ่งกระตุ้นให้ธาตุลมในร่างกายแปรปรวนและเสียสมดุลมากยิ่งขึ้น
ในส่วน ยาสมุนไพร ที่เหมาะจะถวายพระสงฆ์เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วย ที่มักพบได้บ่อย ในช่วงฤดูฝน ได้แก่
1.ยาขิง ใช้บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด
2.ยาแก้ไอผสมมะขามป้อม บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ
3.ยาปราบชมพูทวีป บรรเทาอาการหวัดในระยะแรก และอาการ ที่เกิดจากการแพ้อากาศ
4.ยาธาตุอบเชย บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม
5.ยาจันทลีลา บรรเทาอาการไข้ตัวร้อน ไข้เปลี่ยนฤดู
6.ยาหอมนวโกฐ แก้วิงเวียนศีรษะ ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวก
7.ครีมไพล/ยาหม่องไพล ใช้ทาบรรเทาอาการปวดเมื่อย
นายแพทย์ขวัญชัย กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากการเสริมด้วยสมุนไพรที่ช่วยดูแลสุขภาพพระสงฆ์แล้ว ควรลดการปรุงอาหารด้วยน้ำมันเปลี่ยนเป็นการนึ่ง ต้ม ตุ๋นแทน ลดการปรุงอาหารรสจัดลง ทั้งหวานจัด เค็มจัด เพื่อสุขภาพที่ดีของพระสงฆ์