ชี้ดีมานด์คนไทยอยากมีบุตรเพิ่ม ดันตลาดเตรียมตั้งครรภ์โตแรง

25 ก.ค. 2567 | 08:55 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ค. 2567 | 08:58 น.

ชี้ดีมานด์คนไทยต้องการมีบุตรเพิ่มสูงขึ้น หลังสถิติประชากรเด็กเกิดใหม่ลดต่อเนื่อง 3 ปีติดต่อกัน “เบบี้แอนด์มัม” เผยพบปัญหาภาวะมีบุตรยากจากฝ่ายชายพบมากถึง 40% ขณะที่แนวโน้มตลาดเตรียมตั้งครรภ์ขยายตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ข้อมูลจากวิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า จำนวนประชากรไทยเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องและสังคมสูงวัยแบบสุดยอดด้วยความเร็วสูง(Super Aged Society) เพราะอัตราการเกิดน้อยกว่าการตาย โดยปี 2564 มีประชากรจำนวน 66.17 ล้านคน ปี 2565 มีประชากรจำนวน 66.09 ล้านคน และปี 2566 มีประชากรจำนวน 66.05 ล้านคน

ขณะที่ปี 2567 มีแนวโน้มที่ประชากรไทยจะลดลงอีก จากปัจจัยที่ทำให้คนในสังคมเป็นโสด แต่งงานช้า มีบุตรยาก รวมถึงแต่งงานแต่คุมกำเนิด มีบุตรน้อยหรือไม่มีบุตรเลย มีทั้งเรื่องของสังคมและวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นเน้นความเป็นปัจเจกมากขึ้น ให้ความสำเร็จในเชิงวัตถุ และความไม่เท่าเทียมในบทบาททางเพศยังปรากฎให้เห็นอยู่ รวมถึงปัจจัยทางจิตวิทยา ที่ให้ความสำคัญกับชีวิตการเรียนและการทำงานมากกว่าสร้างครอบครัว

แนวโน้มดังกล่าวส่งสัญญาณว่าประเทศไทยจะเกิดวิกฤตทางประชากรในอีก 60 ปีข้างหน้าอาจจะลดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของปัจจุบัน แต่ก็อาจเปลี่ยนแปลงไปจากที่คาดการณ์ไว้ได้เช่นกัน โดยสถานการณ์ในระยะ 5-10 ปี ถือว่าน่าวิตกเพราะจะกลายเป็นวิกฤตเรื้อรังในระยะยาว ขณะที่ประชากรจำนวนหนึ่งต้องการที่จะมีทายาทแต่ก็ยังต้องเผชิญปัญหาการมีบุตรยาก

นายเรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบบี้แอนด์มัม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันดีมานด์ของตลาดเตรียมตั้งครรภ์ของผู้มีบุตรยากมีเพิ่มสูงขึ้น และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตประชากรเด็กเกิดใหม่ลดลง ซึ่งหนึ่งในสาเหตุนั้นมาจากคู่สมรสมีภาวะมีบุตรยากสูงขึ้น

เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์

จากการแต่งงานที่ล่าช้า เลือกที่จะมีบุตรเมื่อพร้อมซึ่งส่วนใหญ่พบในวัยที่มีอายุมากเกิน 35 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ภาวะเจริญพันธุ์ถดถอย จึงทำให้คู่แต่งงานหลายๆ คู่ ที่มีความพร้อมที่จะมีบุตรและมีภาวะมีบุตรยาก หันมาใส่ใจในการดูแลสุขภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนมีบุตรและการตั้งครรภ์อย่างมีคุณภาพ จึงทำให้คู่สมรสหลายคู่หันมาให้ความสำคัญในเตรียมความพร้อมในการตั้งครรภ์ทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายมากขึ้นและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“ปัญหาภาวะมีบุตรยากจากฝ่ายชายพบมากถึง 40% จากภาวะมีบุตรยากทั้งหมด ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะมีบุตรยากในฝ่ายชายนั้นมีหลายปัจจัย ตั้งแต่ปัญหาทางกายภาพ อายุที่มากขึ้น และปัจจัยอื่น ๆ ภายนอกทางสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ทำให้การดูแลสุขภาพนั้นไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารการกิน การพักผ่อน และการออกกำลังกาย

รวมถึงการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ นอนดึก ซึ่งไลฟ์สไตล์เหล่านี้ล้วนส่งผลเสียต่อความสามารถในการผลิตสเปิร์มที่น้อยลง สร้างสเปิร์มที่ไม่สมบูรณ์ คุณภาพสเปิร์มลดลง รวมไปถึงการเคลื่อนที่ของสเปิร์มลดลง จนไม่สามารถว่ายไปถึงเซลล์ไข่เพื่อปฏิสนธิได้”

อย่างไรก็ดีด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ ทำให้ผู้ชายที่กำลังจะเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็น IUI IVF หรือ ICSI มักจะมีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของสเปิร์ม และในระยะเวลาที่จำกัดในการบำรุง นอกจากการดูแลตัวเองในเรื่องของพฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือพฤติกรรมการทานอาหารตามหลักโภชนาการเป็นอย่างดี การทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ

ทั้งนี้ “เบบี้แอนด์มัม”  ได้ศึกษาถึงปัญหา ความต้องการและพฤติกรรมของผู้มีบุตรยากที่ต้องการความรู้และความเข้าใจ รวมถึงวิธีการเตรียมตั้งครรภ์อย่างถูกวิธี พร้อมเปิดเพจ BabyAndMom.co.th เพื่อให้ความรู้เตรียมตั้งครรภ์ตามหลักวิทยาศาสตร์ โดย “ครูก้อย นัชชา ลอยชูศักดิ์” ครูวิทยาศาสตร์ผู้ผ่านกระบวนการรักษาผู้มีบุตรยากมาแล้วทุกขั้นตอน

พร้อมศึกษางานวิจัยเกี่ยวกับโภชนาการเสริมภาวะเจริญพันธุ์  และให้ความสำคัญกับการบำรุงเตรียมตั้งครรภ์เพื่อการตั้งครรภ์อย่างมีคุณภาพ และคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์เตรียมตั้งครรภ์ตามหลักวิทยาศาสตร์และหลักโภชนาการเสริมภาวะเจริญพันธุ์ โดยล่าสุดเปิดตัวโมทิล่าวัน บาย ครูก้อย (MOTILA1 BY KRUKOY) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดูแลสุขภาพผู้ชายที่เตรียมตัวเป็นคุณพ่อด้วย