แพทย์หญิงศิเรมอร ทองสิมา ผู้อำนวยการสายงานแพทย์ บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันเกิดของเด็กไทยลดน้อยลงมาก โดยมีอัตราเฉลี่ยลดลงสูงถึง 35% และคู่สมรสในประเทศไทยก็มีบุตรน้อยลงด้วยหลายปัจจัย ทั้งภาวะเศรษฐกิจ อายุ การแต่งงานที่ล่าช้า ความสมบูรณ์ของเพศหญิงและเพศชาย ฮอร์โมน น้ำเชื้อน้อย ฯลฯ
โรงพยาบาลนครธนจึงได้เล็งเห็นปัญหาดังกล่าวพร้อมมุ่งเน้นศักยภาพการให้บริการ เปิด “ศูนย์นครธน กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้” โฉมใหม่ ภายใต้ความร่วมมือกันระหว่าง บริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (มหาชน) และบริษัท กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้ จำกัด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ประสบปัญหามีบุตรยาก ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ และมุ่งสู่การเป็นผู้นำการให้บริการรักษาภาวะมีบุตรยากอย่างเต็มรูปแบบ
"บริษัท กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้ เหมือนเป็นพาร์ทเนอร์เข้ามาช่วยบริหาร วางแผน ให้ความรู้เพิ่มเติมกับโรงพยาบาลนครธนให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น สามารถรับคนไข้ได้มากขึ้น ซึ่งคู่สมรสที่มีปัญหาเกี่ยวกับภาวะมีบุตรยากจะอยู่ในช่วงอายุ 30-42 ปี"
โดยมีห้องปฎิบัติการตรวจวิเคราะห์น้ำเชื้อ ห้องปฎิบัติการปฎิสนธิ ห้องปฎิบัติการเลี้ยงตัวอ่อน เพื่อรองรับบริการ ได้แก่ การผสมเทียม (IUI: Intrauterine Insemination) การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF: In Vitro Fertilization) การทำอิ๊คซี่ (ICSI: Intracytoplasmic Sperm Injection) การทำ PESA/TESE เก็บอสุจิ, ตรวจวินิจฉัยโรคทางพันธุกรรม PGT(Preimplantation genetic testing) เพื่อป้องกันถ่ายทอดความผิดปกติในครอบครัว, การตรวจวิเคราะห์โครโมโซมตัวอ่อน NGS (Next Generation Sequencing) และการแช่แข็งไข่ (Oocyte Freezing) เป็นต้น
ทั้งนี้ ยังมีการวิเคราะห์ด้วยเครื่องตรวจคุณภาพน้ำเชื้อ, ประมวลผลด้วยระบบ AI, ดูแลตัวอ่อนด้วยระบบปิดผ่านเครื่องเพาะเลี้ยง,ควบคุมอุณหภูมิ, สร้างสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อน และพัฒนาไปเป็นการตั้งครรภ์ที่ประสบความสำเร็จ ภายใต้การดูแลที่ดูแลโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนและพันธุศาตร์
"ที่จริงเราได้รับใบอนุญาตเปิดดำเนินการคลินิกผู้มีบุตรยากตั้งแต่ปี 2556 เป็นศูนย์แรกอันดับต้นๆ ที่ให้บริการย่านกรุงเทพฯฝั่งตะวันตก กระทั่งปี 2567 จึงมาร่วมมือกับบริษัท กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้ เหมือนรีแบรนด์ใหม่ ซึ่งอัตราความสะเร็จของการบริการถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน และบริการอย่างครบวรจร ซึ่งเป็นส่วนเสริมการเติบโตกลุ่มการแพทย์ในแผนกอื่นๆ ของโรงพยาบาลให้เติบโตไปด้วย โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย ส่วนลูกค้าต่างชาติมีอยู่ในส่วนน้อย ตามกฏหมายที่ควบคุมอย่างเคร่งครัด"
แพทย์หญิงศิเรมอร กล่วว่า การรักษาผู้มีบุตรยากจะแตกต่างกันแล้วแต่เคส การรักษาจะมีทั้งแบบ IUI, ICSI และ ฝากไข่
"กรุงเทพฝั่งตะวันกตกก็ตอบโจทย์เป็นพื้นที่ครอบครัวใหญ่ มีหลากหลายเจเนอเรชั่น ศูนย์รักษาดูแลผู้มีบุตรยากเป็น 1 ใน 4 ศูนย์บริการที่เป็นเป้าหมายของโรงพยาบาลนครธน ซึ่งช่วยให้แผนกอื่นเชื่อมถึงกันและผลักดันการเติบโตขึ้น โดยภาพรวมลูกค้าจะเป็นคนไทย 95% ต่างชาติ 5% ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและเมียนมา"