สมศักดิ์ ชงแผนปั้นบุคลากรสาธารณสุขรับ 30 บาทรักษาทุกที่

05 ส.ค. 2567 | 23:00 น.

จับตา "สมศักดิ์" ชงแผนเพิ่มบุคลากรสาธารณสุขทั้งระบบเข้าที่ประชุม ครม. 6 ส.ค.นี้ มุ่งเพิ่มแพทย์ 3 หมื่นคน พยาบาล 1.2 แสนคน พร้อมสวัสดิการ-ค่าตอบแทน รองรับนโยบาย "30 บาทรักษาทุกที่" และ Medical Hub ของไทย

จับตาการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้วันที่ 6 สิงหาคม 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) เตรียมเสนอยุทธศาสตร์การปฎิรูปกำลังคนและภารกิจบริการด้านสาธารณสุขในภาพรวมทั้งระบบระยะ 10 ปี ให้ ครม.รับทราบตามที่มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 9 ก.ค.67 เห็นชอบการแก้ไขปัญหากำลังคนด้านสาธารณสุข โดยให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ให้มีจำนวนเพียงพอ

นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.วันที่ 6 สิงหาคมนี้เตรียมเสนอยุทธศาสตร์การปฎิรูปกำลังคนฯซึ่งเป็นกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหากำลังคนด้านสาธารณสุขที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเพื่อช่วยแก้ปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลนได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็วและเพียงพอต่อการให้บริการด้านสาธารณสุขและรองรับนโยบายสำคัญของรัฐบาล อาทิ การยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว และนโยบายศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ (Wellness & Medical Hub)

สำหรับยุทธศาสตร์การปฎิรูปกำลังคนฯที่เสนอ ครม.ในครั้งนี้ เป็นแผนเร่งผลิตและพัฒนากำลังคนให้เพียงพอต่อการให้บริการด้านสาธารณสุขโดยให้ความสำคัญในทุกวิชาชีพเพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศครบทุกมิติ

ทั้งนี้ ปัจจุบันแพทย์มีจำนวน 71,616 คน เป้าหมายภายใน 10 ปี เพิ่มเป็น 102,690 คนทำให้ต้องมีการผลิตเพิ่มต่อปีเป็น 4,000 คน ซึ่งต้องผลิตเพิ่ม 31,074 คนโดยจะทำให้อัตราส่วนแพทย์ต่อประชากรลดลง จากปัจุบันอยู่ที่ 1 ต่อ 922 จะเป็น 1 ต่อ 650

ขณะที่พยาบาล ปัจจุบันมีจำนวน 209,187 คน คิดเป็นสัดส่วนพยาบาลต่อประชากร 1 ต่อ 316 เป้าหมาย 10 ปี จะมีพยาบาลต่อประชากร 1 ต่อ 200 หรือ มีพยาบาลอย่างน้อย 333,745 คน กล่าวคือ ยังขาดพยาบาลอยู่อีก 124,558 คน โดยได้มีการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา 3 แนวทาง

1.เพิ่มการผลิตพยาบาล จากเดิมผลิตได้ปีละ 12,000 คน เป็น 15,000 คน ทำให้ในระยะ 10 ปี จะมีพยาบาลเพิ่ม 30,000 คน

2.เพิ่มการผลิตผู้ช่วยพยาบาลหลักสูตร 1 ปี จำนวน 10,000 คนต่อปี ในระยะ 3 ปีแรก รวม 30,000 คน

3.เพิ่มการจ้างผู้เกษียณเข้าทำงานในระบบ รวมถึงจ้างพยาบาลเกษียณ เป็นอาจารย์ในภาคการศึกษา หรือ ภาควิชาการของโรงพยาบาล จำนวน 375 คน

อย่างไรก็ดี ยุทธศาสตร์การปฎิรูปกำลังคนฯครั้งนี้เป็นการเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ทั้งระบบ เช่น

เภสัชกร : ปัจจุบันมีจำนวน 24,149 คน มีเป้าหมายเพิ่มใน 10 ปี เป็น 33,949 คน หรือ ต้องผลิตเพิ่ม 9,800 คน ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนการผลิตต่อปี 1,900 คน

ทันตแพทย์ : ปัจจุบันมีจำนวน 18,094 คน มีเป้าหมายเพิ่มใน 10 ปี เป็น 22,200 คน หรือ ต้องผลิตเพิ่ม 4,106 คน โดยปัจจุบันมีจำนวนการผลิตต่อปี 850 คน

แพทย์แผนไทย : ปัจจุบันมีจำนวน 5,825 คน มีเป้าหมายเพิ่มใน 10 ปี เป็น 23,994 คน หรือ ต้องผลิตเพิ่ม 18,169 คน

นักสาธารณสุข : ปัจจุบันมีจำนวน 29,756 คน มีเป้าหมายเพิ่มใน 10 ปี เป็น 66,749 คน หรือ ต้องผลิตเพิ่ม 36,993 คน

ทั้งนี้ ยังมีแผนการรักษาบุคลากรให้คงอยู่ในระบบด้วยโดยเสนอเพิ่มกรอบตำแหน่งบรรจุพยาบาล 8,000 ตำแหน่ง เพิ่มเงินพิเศษค่าประกอบวิชาชีพในสาขาขาดแคลน เดือนละ 5,000 บาท จำนวน 170,000 คน

สนับสนุนทุนการพัฒนาศักยภาพการพยาบาลเฉพาะทางเพื่อจูงใจให้อยู่ในระบบมากขึ้น 27,786 ทุน จำนวนทุนละ 60,000 บาท สนับสนุนทุนการศึกษาพยาบาลและตำแหน่งบรรจุข้าราชการ จำนวน 57,000 ทุน จำนวนทุนละ 160,000 บาท

พร้อมเพิ่มความก้าวหน้า ให้พยาบาลวิชาชีพสามารถเลื่อนไหลในระดับชำนาญการพิเศษได้ทุกตำแหน่ง รวมถึงเพิ่มกรอบผู้ช่วยพยาบาล ใน รพ.ชุมชนขนาดเล็กได้ด้วย