สปสช. หนุนใช้งบ กปท. จัดรถรับ -ส่งผู้ทุพพลภาพถึงบ้าน

16 ส.ค. 2567 | 08:00 น.

บอร์ด สปสช. เปิดทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใช้งบ กปท. บริการพาหนะรับส่งผู้ทุพพลภาพ ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลและหน่วยบริการ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ลดภาระญาติ เพิ่มโอกาสการรักษาอย่างทั่วถึง

16 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด สปสช. ที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 67 ซึ่งมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้มีมติเห็นชอบร่างข้อเสนอการจัดบริการพาหนะรับส่งผู้ทุพพลภาพเพื่อเข้ารับบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท

สำหรับ ผู้ทุพพลภาพ ในที่นี้หมายถึงผู้ใช้สิทธิบัตรทอง 3 กลุ่ม คือ 1.คนพิการที่ได้ขึ้นทะเบียนคนพิการแล้ว 2.ผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ และ 3.ผู้ป่วยที่มีความยากลําบากในการไปรับบริการสาธารณสุขด้วยตนเอง

ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้มีสิทธิที่เป็นผู้ทุพพลภาพสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้ตามความจําเป็น ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางอ้อมของครัวเรือน อาทิ ค่าเดินทาง และค่าเสียโอกาสของญาติ เป็นต้น

สำหรับที่มาของข้อเสนอนี้เนื่องจากปัจจุบันผู้ทุพพลภาพกลุ่มต่าง ๆ ยังมีข้อจํากัดในการเดินทางจากบ้านไปรับบริการที่โรงพยาบาลหรือหน่วยบริการและไม่สามารถขอรับบริการรถฉุกเฉินผ่านสายด่วน 1669 ได้เนื่องจากไม่เข้าข่ายการเจ็บป่วยฉุกเฉิน เช่น คนพิการ จิตเวช ที่ต้องพบแพทย์ตามนัด การล้างไต ทำแผล ฯลฯ

นอกจากนี้ในเวทีรับฟังความเห็นทั่วไปในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปี 2563 และ 2564 ก็มีข้อเสนอจากภาคประชาชนที่ขอให้ สปสช. เพิ่มบริการพาหนะรับส่งผู้ป่วยเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบบัตรทองเพื่อช่วยให้ผู้ทุพพลภาพเข้าถึงบริการได้โดยสะดวก

ร่างข้อเสนอการจัดบริการพาหนะรับส่งผู้ทุพพลภาพเพื่อเข้ารับบริการสาธารณสุขจะเป็นแนวทางในการปฏิบัติที่ชัดเจนให้กับ อปท.ในการจัดทำโครงการบริการรับส่งผู้ทุพพลภาพจากบ้านไปกลับโรงพยาบาลโดยใช้งบกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.)

ผู้ให้บริการรถรับส่ง ได้แก่ รถพยาบาลของหน่วยบริการที่เป็นไปตามมาตรฐานรถพยาบาลของสถานพยาบาล, รถหน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) รับรองและขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยงานที่ให้บริการรับส่งต่อผู้ป่วยและผู้ทุพพลภาพ และรถรับส่งผู้ป่วยโดยภาคเอกชนหรือเครือข่าย

รวมถึงรถโดยสารสาธารณะสำหรับผู้โดยสารคนเดียวหรือกลุ่มเล็ก เช่น รถแท็กซี่ เป็นต้น ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด นับเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างมาก นพ.จเด็จ เลขาธิการ สปสช. กล่าว  

ขณะที่ นางวราภรณ์ สุวรรณเวลา รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ในส่วนของอัตราการจ่ายค่าบริการพาหนะรับส่งผู้ทุพพลภาพ มีทางเลือกการจ่าย 4 แนวทาง เพื่อให้ อปท. พิจารณาได้ตามบริบทของแต่ละพื้นที่ ดังนี้ 

1.จ่ายตามอัตราการจ่ายค่าใช้จ่ายค่าพาหนะรับส่งต่อผู้ป่วยที่กำหนดตามประกาศ สปสช. คือ จ่ายตามจริงไม่เกิน 500 บาท สำหรับระยะทางน้อยกว่าหรือเท่ากับ 50 กม. และหากระยะทางมากกว่า 50 กม. จ่ายเริ่มต้น 500 บาท และเพิ่มขึ้น กม.ละ 4 บาท

2.จ่ายตามอัตราการอุดหนุนหรือชดเชยการปฏิบัติการฉุกเฉินทางบก ตามระเบียบของ สพฉ. เช่น ระยะทางไม่เกิน 10 กม. จ่ายประมาณ 100-350 บาท/ครั้ง 

3.จ่ายรายครั้งบริการไปกลับตามอัตราที่ประกาศกำหนด

4.จ่ายเหมาบริการรายวัน ตามอัตราที่ประกาศกำหนด

ทั้งนี้ หลังจากที่บอร์ด สปสช. เห็นชอบร่างข้อเสนอฯ ได้มอบหมาย สปสช. เสนอคณะอนุกรรมการชุดที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อน และประสาน อปท. ทั่วประเทศในการสนับสนุนการจัดทำโครงการการจัดบริการพาหนะรับส่งผู้ทุพพลภาพโดยใช้งบ กปท. ตามแนวทางนี้

นอกจากนี้ให้ สปสช. จัดระบบศูนย์สั่งการและประสานงานผู้ให้บริการพาหนะฯ Contact center 1330 เพื่ออํานวยความสะดวกให้ประชาชนและหน่วยบริการในการขอรับบริการต่อไป