รพ.จุฬาลงกรณ์ จับมือ "ดุสิตธานี" สร้างเขตบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร

28 ส.ค. 2567 | 12:54 น.
อัพเดตล่าสุด :28 ส.ค. 2567 | 18:47 น.

โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย MOU "ดุสิตธานี" สร้างเขตการบริการทางการแพทย์แบบครบวงจร และที่พักเชิงสุขภาพ รองรับกลุ่มผู้ป่วยเฉพาะที่มีกำลังทรัพย์

ศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณบดี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสร้างเขตการบริการทางการแพทย์แบบครบวงจร และที่พักเชิงสุขภาพ (Comprehensive Medical Corridor) ในเขตกลางกรุงเทพมหานคร เป็นการผสานจุดแข็งของทั้งสององค์กร ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือเพื่อประโยชน์สำหรับประชาชน 

รพ.จุฬาลงกรณ์ จับมือ \"ดุสิตธานี\" สร้างเขตบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร

จากจุดแข็งของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ที่เป็นสถาบันการแพทย์ที่ให้บริการด้านสาธารณสุขและการพยาบาลที่มีมีมาตรฐานสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของโรงพยาบาล ได้ร่วมมือกับบริษัท ดุสิตธานีฯ ที่ได้นำจุดแข็งทั้งในด้านการบริหารจัดการโรงแรมและโครงการที่พักอาศัย ที่เปิดให้บริการทั้งในและต่างประเทศ

รวมถึงจุดแข็งของธุรกิจทางด้านอาหารและโรงเรียนสอนทำอาหาร นำมาบูรณาการร่วมกับทางโรงพยาบาล ผสานทั้งสององค์กรเพื่อประโยชน์สูงสุดและเป็นทางเลือกต่อผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาล 

สำหรับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และดุสิตธานี ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร (CBD) ประชาชนสะดวกในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลและการใช้บริการที่พักอาศัยชั่วคราว การผนึกกำลังสร้างความเชื่อมโยงในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งโรงพยาบาลและที่พัก จะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกทำให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้รับการดูแลอย่างครบวงจร

โดยผู้ป่วยบางรายไม่จำเป็นต้องนอนรักษาในของโรงพยาบาล แต่หากไม่สะดวกต่อการเดินทางไปกลับเพื่อมารับการรักษาอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาล ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการทั้งของผู้ป่วยและครอบครัว ที่ต้องการพักอาศัยชั่วคราวในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงพยาบาล เพื่อความสะดวกในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น

รพ.จุฬาลงกรณ์ จับมือ \"ดุสิตธานี\" สร้างเขตบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร

1.ผู้ป่วยที่ต้องเตรียมลำไส้ก่อนส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ - การเตรียมตัวผู้ป่วยต้องทานยาถ่าย เพื่อล้างลำไส้ก่อนการตรวจ มักจะต้องเข้าห้องน้ำหลายครั้งในคืนก่อนวันตรวจ และต้องมาถึงโรงพยาบาลในตอนเช้า การมีที่พักใกล้โรงพยาบาลจะช่วยลดความเครียดและความไม่สะดวกในการเดินทาง

2.ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัด - เป็นผู้ป่วยที่แพทย์ลงความเห็นว่าไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล แต่ต้องมีนัดตรวจติดตามในเร็ววัน การพักใกล้โรงพยาบาลจะช่วยให้การติดตามผลการรักษาสะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่เดินทางกลับต่างจังหวัดหรือต่างประเทศเป็นเรื่องที่ไม่สะดวก

3.ผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องการการรักษาต่อเนื่อง - เช่น การฉายรังสีซึ่งใช้เวลาต่อเนื่อง 2-7 สัปดาห์ การมีที่พักใกล้โรงพยาบาลจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างสะดวกและมีความสุขมากขึ้น โดยไม่ต้องเผชิญกับความยุ่งยากในการเดินทาง 

4.ผู้ป่วยที่ต้องรับการทดสอบการนอนหลับ หรือ sleep test ฯลฯ

รศ.นพ.รัฐพลี ภาคอรรถ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฝ่ายสนับสนุนบริการ กล่าวว่า ผู้ป่วยที่จะเข้ามาใช้บริการภายใต้ความร่วมมือนี้ เป็นกลุ่มเฉพาะเจาะจงที่มารับการรักษาและกำลังทรัพย์ ต้องการความสะดวกสบายที่ไม่ได้ราคาสูงเท่าเอกชน ซึ่งช่วยให้คิวในการรักษาสั้นลงและรองรับผู้ป่วยได้มากขึ้น โดยยังคงมาตรฐานและคุณภาพการรักษาเดียวกัน

รพ.จุฬาลงกรณ์ จับมือ \"ดุสิตธานี\" สร้างเขตบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร

"หากคนไข้ไปพักพิงที่โรงแรมใกล้เคียง ในอนาคตอาจจะมีบุคคลากรทางการแพทย์ตามไปดูแลอย่างใกล้ชิดได้ แต่ยังคงอยู่ภายใต้ศักยภาพของบุคคลากรที่มี"

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มคนไข้ที่ต้องการอาหารที่เฉพาะเจาะจง เช่น ผู้ป่วยมะเร็งและผู้ป่วยหลังผ่าตัดมักต้องการอาหารโปรตีนสูง, ผู้ป่วยที่ต้องเตรียมลำไส้ มีประเภทอาหารที่ทานได้อย่างจำกัด ในช่วง 1-2 วันก่อนทำการตรวจส่องกล้อง ที่อาจมีความยุ่งยากในการจัดหาอาหาร และ/หรือการคำนวณปริมาณอาหารที่เหมาะสมทางโภชนาการ

ทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ก็ได้ร่วมกันพัฒนาเมนูอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วนตามความต้องการเฉพาะของผู้ป่วยด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดเขตการบริการทางการแพทย์ที่ครบวงจร

ประโยชน์ที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยและครอบครัว

1.    ที่พักเชิงสุขภาพ: การให้บริการที่พักที่สะดวกสบายจากโรงแรมชั้นนำในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถพักฟื้นในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการฟื้นฟูและลดความตึงเครียด

2.    การพัฒนาคุณภาพอาหาร: การร่วมมือระหว่างฝ่ายโภชนวิทยาและโภชนบำบัดของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และเชฟจาก The Food School (เดอะ ฟู้ด สคูล) จะพัฒนาเมนูอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วนตามความต้องการเฉพาะของผู้ป่วย เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ 

3.    การบริการและการฝึกอบรม: ดุสิตธานีจะนำเสนอวิธีการบริการระดับห้าดาวและการฝึกอบรมบุคลากรของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อยกระดับการต้อนรับและบริการให้มีคุณภาพสูงขึ้น รวมถึงเป็นที่ปรึกษาของฝ่ายโภชนวิทยาและโภชนบำบัด ในการร่วมพัฒนาเมนูและการตกแต่งอาหารสำหรับให้บริการผู้ป่วยในโรงพยาบาล

ส่วนของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ได้ร่วมพัฒนาความสามารถของบุคลากรดุสิตธานี โดยการฝึกอบรมการกู้ชีพขั้นพื้นฐาน และการจัดเตรียมความพร้อมด้าน emergency response สำหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการบริการ

รพ.จุฬาลงกรณ์ จับมือ \"ดุสิตธานี\" สร้างเขตบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร

ด้าน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การลงนามความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เริ่มพูดคุยกันมาตั้งแต่ปลายปี 2567 ที่ผ่านมา และเริ่มต้นทำได้เลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รวมทั้งพร้อมขยายผลในอนาคต ซึ่งขณะนี้ผู้ใช้บริการหลายคนเริ่มให้ความสนใจแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการรับบริการทางการแพทย์

"สิ่งที่คาดหวังคือ อยากทำให้ความร่วมมือครั้งนี้เป็นต้นแบบ เป็นโมเดลให้โรงพยาบาลและโรงแรมอื่นๆ ทั่วประเทศด้วย เพื่อให้เกิดประโยชน์เต็มประสิทธิภาพกับผู้มาเข้ารักบริการในโรงพยาบาล โดยดุสิตธานีมีห้องพักในเครืองกว่า 12,700 ห้อง สามารถรองรับผู้ที่จะมาเข้ารับการรักษาได้ แต่ขึ้นอยู่กับความสะดวกและการส่งตัวผู้ป่วยด้วย ในอีกมุมหนึ่งถือเป็นความร่วมมือตามเทรนด์ธุรกิจเวลเนสและ Medical Care" 

ทั้งนี้ กลุ่มดุสิตธานีมั่นใจว่า จะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านบริการที่พักและอาหาร มาผสมผสานกับความเชี่ยวชาญด้านบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้ารับบริการ

รพ.จุฬาลงกรณ์ จับมือ \"ดุสิตธานี\" สร้างเขตบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร

อย่างไรก็ตาม ขอบเขตความร่วมมือในครั้งนี้ ในเบื้องต้นจะอยู่ภายใต้การดูแลและให้บริการโดย “โรงแรมดุสิต สวีท ราชดำริ” ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ผู้เข้ารับบริการสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย และโรงแรมมีความพร้อมด้านการรับรองผู้พำนักระยะยาว ซึ่งผู้เข้ารับบริการจะได้รับการดูแลอย่างอบอุ่นและเป็นเลิศภายใต้มาตรฐาน “ดุสิตธานี”  

ขณะเดียวกัน ความร่วมมือดังกล่าวยังครอบคลุมถึงการพัฒนาสูตรอาหารโดยเน้นโภชนาการ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่กลุ่มดุสิตธานีโดย “เดอะ ฟู้ด สคูล” จะได้เรียนรู้และพัฒนาสูตรอาหารจากนักโภชนาบำบัด เพื่อนำเสนออาหารรสชาติอร่อยและเป็นอาหารสุขภาพที่เหมาะกับผู้เข้ารับการรักษา รวมถึงลูกค้าที่เข้ารับบริการ

นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญของกลุ่มดุสิตธานีในการขยายธุรกิจด้าน “ฮอสพิทอลลิตี้ เซอร์วิสเซส” ซึ่งที่ผ่านมาเราวางแผนที่จะสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจนี้อยู่แล้ว แต่ความร่วมมือครั้งนี้จะยิ่งเป็นแรงขับเคลื่อนและผลักดันให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น สอดรับกับกลยุทธ์ระยะยาวในการดำเนินงานของกลุ่มดุสิตธานีที่ครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ ขยายการเติบโต กระจายการลงทุน และสร้างสมดุล

ที่สำคัญกว่านั้น คือ การที่กลุ่มดุสิตธานีจะได้เรียนรู้โมเดลการบริการด้านสุขภาพ ทั้งบริการทางการแพทย์ครบวงจร ที่พักเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ รวมถึงอาหารเพื่อสุขภาพ จากผู้ให้บริการทางการแพทย์ชั้นนำ เชื่อว่ากลุ่มดุสิตธานีจะสามารถมานำต่อยอดในการขยายธุรกิจและการให้บริการ เพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของประชากรได้