จัดใหญ่ 'Healthy Living Expo 2024' ดันภาคใต้เป็นฮับสุขภาพโลก

นพ.ศักดา อัลภาชน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 11 กล่าวว่า ตลาดการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ทั่วโลกมีมูลค่า 24,140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8.14 แสนล้านบาท ในปี 2566 และคาดว่าจะมีมูลค่า 29,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ราว 9.87แสนล้านบาทในปี 2567 และในปี 2575 จะเติบโต 21.4% ต่อปี ตามข้อมูลของสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (MTA)

โดยประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์อันดับต้นๆ โดยดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ได้กว่า 3.2 ล้านคนในปี 2565 โดยประเทศไทยสร้างรายได้ 4.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว1.45 แสนล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากการทำศัลยกรรมความงาม การทำทันตกรรม และการรักษาภาวะมีบุตรยาก

จากความพร้อมดังกล่าว รัฐบาลจึงได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และผลักดันให้กระจายในสู่ทุกภูมิภาค ซึ่งในพื้นที่ภาคใต้นับเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีความโดดเด่นในด้านการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูงในการต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2568 หนึ่งในนั้นคือ การส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพนานาชาติ ด้วยการสนับสนุนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สมุนไพร ภูมิปัญญาไทย และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจสุขภาพ ดังนั้นการสนับสนุนการจัดงาน Songkhla Medical & Wellness Tourism Expo งานการท่องเที่ยวทางการแพทย์และสุขภาพยอดนิยม และ Healthy Living & Innovation Expo 2024 งานแสดงสินค้า บริการ และนวัตกรรมเพื่อคนรักสุขภาพ จะช่วยส่งเสริมภาคส่วนต่าง ๆ ในการต่อยอดเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพนานาชาติอย่างแท้จริง

ผู้ช่วยศาสตรจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในฐานะหน่วยงานหลักในการจัดงาน กล่าวว่า งาน Healthy Living & Innovation Expo 2024 งานแสดงสินค้า บริการ และนวัตกรรมเพื่อคนรักสุขภาพ จะเป็นเวทีสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจสุขภาพให้ก้าวหน้า และสร้างเชื่อมโยงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสุขภาพ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โดยวัตถุประสงค์การจัดงาน Healthy Living & Innovation Expo 2024 เพื่อเป็นเวทีนำเสนอสินค้า บริการ นวัตกรรม และความรู้ด้านการดูแลสุขภาพ ความงาม และผู้สูงอายุ รวมทั้งยังสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ นักลงทุน และนักวิจัย จากการร่วมออกบูธ และร่วมกิจกรรมการเจรจาธุรกิจ

เพื่อนำนวัตกรรมด้านการดูแลสุขภาพ ผู้สูงอายุ และความงาม ไปต่อยอดพัฒนาไปสู่การผลิตสินค้าเชิงพาณิชย์ และยังส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักรู้และเข้าใจในเรื่องการดูแลสุขภาพ และความงาม รวมทั้งการดูแลผู้สูงอายุ โดยคาดว่าจะมีมูลค่าเงินสะพัดจากมูลค่า ซื้อ-ขาย B2C ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท มูลค่าซื้อ-ขาย B2B จากกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ ประมาณ 20 ล้านบาท และมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ตลอด 4 วันของการจัดงาน

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้จัดงาน Healthy Living & Innovation Expo 2024 มาอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้ได้จัดพร้อมกับงาน Songkhla Medical & Wellness Tourism Expo งานการท่องเที่ยวทางการแพทย์และสุขภาพยอดนิยม

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังระหว่างสองอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและส่งเสริมการเติบโตของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพในประเทศไทย พร้อมทั้งขยายสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจและนวัตกรรมทางด้านสุขภาพของอาเซียน อันจะนำมาซึ่งเม็ดเงินมหาศาลสู่ประเทศในระยะยาว ซึ่งจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 5 - 8 กันยายน 2567 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ด้าน นางสาวกนกพร ดำรงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดไมซ์ในประเทศ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคใต้ จ. สงขลา ถือได้วว่ามีความพร้อมในทุกด้านในการยกระดับไปสู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในภาคใต้

เนื่องจากมีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่เป็นโรงเรียนด้านการแพทย์ชั้นนำ และมีโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่สำคัญของภาคใต้ที่เพียบพร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคต่างๆ รวมทั้งยังมีโรงพยาบาลเอกชน และธุรกิจด้านสุขภาพรองรับเป็นจำนวนมาก

การจัดงาน Songkhla Medical & Wellness Tourism Expo งานการท่องเที่ยวทางการแพทย์และสุขภาพยอดนิยม และ Healthy Living & Innovation Expo 2024 งานแสดงสินค้า บริการ และนวัตกรรมเพื่อคนรักสุขภาพ ในครั้งนี้

จะช่วยส่งเสริม จ.สงขลา ให้ก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางการแพทย์และสุขภาพระดับนานาชาติ และยกระดับการจัดงานแสดงสินค้าทางการแพทย์และสุขภาพให้เป็นที่นิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อต่อยอดไปสู่การจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ รวมทั้งยังช่วยสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวทางการแพทย์และสุขภาพกับต่างประเทศ”นางสาวกนกพร กล่าว