ไทยจ่อผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่-มะเร็งปากมดลูกเอง สร้างความมั่นคงด้านวัคซีน

28 ต.ค. 2567 | 12:05 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ต.ค. 2567 | 12:06 น.

"ประเสริฐ" นั่งหัวโต๊ะ คกก.วัคซีนแห่งชาติ เห็นชอบหลักการสร้างความร่วมมือผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่พร้อมสนับสนุนการผลิตวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกชนิด 9 สายพันธุ์ หวังสร้างความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศและภูมิภาค

28 ตุลาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2567 พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นรองประธาน โดยมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมทั้งในที่ประชุมและรูปแบบออนไลน์

นายประเสริฐ กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2567 นี้ มีวาระเพื่อพิจารณา จำนวน 2 เรื่อง คือ การสร้างความร่วมมือการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ด้วยเทคโนโลยีเซลล์เพาะเลี้ยงในระดับอุตสาหกรรมเพื่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศและภูมิภาคซึ่งการผลิตวัคซีนได้เองในประเทศ เป็นการเตรียมความพร้อมต่อการรองรับการระบาดของโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำได้ในอนาคต

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องยกระดับเทคโนโลยีการผลิต และวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลด้วยเทคโนโลยี เซลล์เพาะเลี้ยง (Cell based technology) ซึ่งใช้เวลาในการผลิตน้อยกว่าการผลิตด้วยเทคโนโลยีไข่ไก่ฟักซึ่งเป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมที่พัฒนาโดยองค์การเภสัชกรรม

พร้อมกันนี้การรับถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่จากต่างประเทศจะส่งผลให้เกิดความสัมพันธ์อันดีในการส่งเสริมศักยภาพและความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น

โดยที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการ รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานในด้านการสร้างความร่วมมือ ทั้งกระบวนการผลิตจนกระทั่งได้ผลิตภัณฑ์และนำไปสู่การใช้ในประชาชนกลุ่มเป้าหมาย และในการเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน

ไทยจ่อผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่-มะเร็งปากมดลูกเอง สร้างความมั่นคงด้านวัคซีน

หากมีความจำเป็นด้านงบประมาณเพิ่มเติมได้มอบหมายให้ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ในฐานะเลขานุการของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป

สำหรับวาระเพื่อพิจารณา เรื่องที่ 2 คือ การสนับสนุนความร่วมมือการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (Human Papilloma Virus: HPV) ชนิด 9 สายพันธุ์ เพื่อความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ

จากการที่ประเทศไทยและทั่วโลกเกิดสถานการณ์การขาดแคลนของวัคซีน HPV ทำให้ประเทศไทยได้มีการปรับรูปแบบความร่วมมือใหม่ คือ การถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ จากบริษัท INNOVAX ด้วยการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 3 ฝ่าย ได้แก่ บริษัท INNOVAX สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และ บริษัท โกลบอลไบโอเทค จำกัด ซึ่งในขณะคือ บริษัท GPO-MBP

ไทยจ่อผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่-มะเร็งปากมดลูกเอง สร้างความมั่นคงด้านวัคซีน

เริ่มมีการถ่ายทอดเทคโนโลยี เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการถ่ายทอดเทคโนโลยี และการผลิตวัคซีน จนไปถึงการขึ้นทะเบียนวัคซีนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ภายในปี 2570

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการการสนับสนุนความร่วมการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ พร้อมสนับสนุนการดำเนินงาน ทั้งกระบวนการจนกระทั่งได้ผลิตภัณฑ์ และนำไปสู่การใช้ในกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองประธาน กล่าวเสริมว่า การประชุมในวันนี้มีวาระการประชุมทั้งหมด 6 เรื่อง มีเรื่องเพื่อทราบ 4  เรื่อง ประกอบด้วย

สรุปผลการดำเนินงานด้านวัคซีนของประเทศ, สรุปผลการดำเนินงานการนำร่องการสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการจัดซื้อจัดหาวัคซีนและแผนการขยายผลสู่ อปท. อื่น ๆ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565-2567 , สรุปผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค และผลการดำเนินงานควบคุมและป้องกันโรคที่ป้องกันด้วยวัคซีน

 

ไทยจ่อผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่-มะเร็งปากมดลูกเอง สร้างความมั่นคงด้านวัคซีน