คนไทยป่วย "มะเร็งปอด" ติดอันดับ 1 ในภาคเหนือ พบมากที่สุดเป็นอุบัติการณ์

05 ม.ค. 2568 | 01:14 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ม.ค. 2568 | 01:36 น.

กรมการแพทย์ จัดกิจกรรมการให้ความรู้เกี่ยวกับ PM 2.5 และความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรต้านมะเร็ง ในโครงการจังหวัดลำปางเคลื่อนที่ พบภาคเหนือป่วยเป็นอุบัติการณ์มากเป็นอันดับ 1

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากข้อมูลองค์การอนามัยโลกปี พ.ศ. 2564 สาเหตุการเสียชีวิต 10 อันดับแรกที่มีการเสียชีวิตมากที่สุดพบว่า โรคเกี่ยวกับปอดและมะเร็งปอดติดอยู่อันดับ 6 ในการเสียชีวิตของประชากรทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทยพบว่ามะเร็งปอดพบมากเป็นอันดับ 2 ในเพศชาย และอันดับ 4 ในเพศหญิง 

ในภาคเหนือพบว่า มีอุบัติการณ์มากเป็นอันดับ 1 ในเพศชาย (33.1 ต่อแสนประชากร) และเพศหญิง (19.9 ต่อแสนประชากร) นอกจากนี้มะเร็งปอดยังเป็นปัญหาสำคัญในพื้นที่ภาคเหนือที่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการสูญเสียประชากรก่อนวัยอันควร และเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาเป็นจำนวนมาก กรมการแพทย์ 

โรงพยาบาลมะเร็งลำปางจึงจัดกิจกรรมการให้ความรู้เกี่ยวกับ PM 2.5 และความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรต้านมะเร็ง ร่วมกับหน่วยงานราชการในจังหวัดลำปาง ในโครงการจังหวัดลำปางเคลื่อนที่ เพื่อให้บริการเชิงรุกของหลากหลายภาคส่วนแก่ประชาชน สามารถให้บริการได้อย่างสะดวกแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ชุมชน 

คนไทยป่วย \"มะเร็งปอด\" ติดอันดับ 1 ในภาคเหนือ พบมากที่สุดเป็นอุบัติการณ์

ด้านนายแพทย์รวินท์ อิงศิโรรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งลำปาง กล่าวว่า โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง นำโดยประธานคณะกรรมการสร้างเสริมสุขภาพและทำงานร่วมกับชุมชน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง ร่วมโครงการจังหวัดลำปางเคลื่อนที่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ให้ความรู้เกี่ยวกับ PM 2.5 และให้ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรต้านมะเร็ง ร่วมกับ “หน่วยทีมแพทย์อาสาเคลื่อนที่ พอ.สว. เพื่อประชาชนที่ด้อยโอกาส” 

สำหรับกิจกรรมดังกล่าวมีประชาชนเข้าร่วมประมาณ 53 คน โดยได้ตรวจรักษาและดูแลรักษาสุขภาพที่จำเป็นให้กับประชาชน มีบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป วัดความดันโลหิต บริการทันตกรรม บริการแพทย์แผนไทย ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม เป็นต้น

คนไทยป่วย \"มะเร็งปอด\" ติดอันดับ 1 ในภาคเหนือ พบมากที่สุดเป็นอุบัติการณ์

กิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ร่วมสืบสานพระปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี แสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านทรงมีต่อปวงชนชาวไทย 

เพื่อให้บริการแก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลได้ทำการตรวจรักษาโรค และรับการบริการด้านทันตกรรม ให้ประชาชนที่อยู่ห่างไกลสถานพยาบาลได้เข้าถึงการบริการทางการแพทย์ โดยได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน