เปิดรายชื่อหุ้นได้อานิสงส์"เปิดประเทศ" ชูกลุ่มนิคม-รับเหมา

12 ต.ค. 2564 | 04:21 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ต.ค. 2564 | 14:36 น.

เปิดรายชื่อ "เซ็กเตอร์-หุ้น" ได้อานิสงส์ หลังรัฐบาลประกาศ"เปิดประเทศ" ไม่ต้องกักตัวเริ่ม 1 พฤศจิกายนนี้ โบรกฯเชียร์หุ้นกลุ่มลงทุน "นิคมฯ - รับเหมา" รับมาตรการส่งเสริมการลงทุน

จากการที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564  ประกาศเตรียมพร้อม เปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน 2564

 

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคทีบีเอสที กล่าวว่า ไทม์ไลน์เปิดประเทศ อยู่ภายใต้ในกรอบเวลาที่รัฐบาลกำหนดก่อนหน้านี้อยู่แล้ว  แต่การที่นายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศ ถือเป็นการให้คำมั่นสัญญา "เปิดประเทศ" อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะส่งผลดีต่อบรรยากาศการลงทุน เป็นบวกต่อตลาดหุ้น ดังจะเห็นจากสัญญาณสะท้อนจากเงินบาทแข็งค่า 

"หุ้นเปิดเมือง-เปิดประเทศ หลายตัวราคาปรับขึ้นไปค่อนข้างสูงแล้ว จากที่รัฐบาลประกาศมาก่อนหน้านี้ การลงทุนช่วงนี้จึงเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นมากกว่า โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวกับท่องเที่ยวโรงแรม  แต่ก็ยังมีบางตัวที่มองว่ายังน่าสนใจ เช่น หุ้น บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (  AAV )"

โฟกัสหุ้นกลุ่ม"ลงทุน"รับมาตรการรัฐ

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ  บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ตนอยากให้โฟกัสไปยังหุ้นกลุ่มลงทุนมากกว่า อาทิ หุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มรับเหมา  เพราะหลังเปิดประเทศ รัฐบาลมักจะออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนในประเทศตามมา หุ้นกลุ่มนี้ได้แก่  บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA ), บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ ( ROJNA), บมจ. ช.การช่าง (CK ) ,  บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM ) และบมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม ( ITEL ) เป็นต้น 

 

ด้านนายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรี ประกาศเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้  คาดจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น และผลบวกต่อกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมือง-เปิดประเทศ เพราะแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่ต้องกักตัวเกิดขึ้นเร็วกว่าคาดการณ์ จากที่คาดว่าจะเริ่มในปี 2565

หุ้นกลุ่มที่ได้อานิสงส์ ได้แก่ หุ้นท่องเที่ยว วันนี้คาดว่าจะปรับขึ้นบวกยกแผง นำโดยกลุ่มโรงแรมที่ได้ประโยชน์ทางตรง ได้แก่ บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW)  คาดว่าจะได้รับประโยชน์มากที่สุด จากสัดส่วนพอร์ตโรงแรม 90% ที่อยู่ในไทย รองลงมา บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) และ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ตามลำดับ

ส่วนหุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและน่าสนใจลงทุน ได้แก่ กลุ่มขนส่ง บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) กลุ่มค้าปลีก บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL ) และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ เลือกหุ้นธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เป็นหุ้นเด่น จากที่มีพอร์ตลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมถึงธุรกิจท่องเที่ยวมากที่สุด

เซ็กเตอร์ - หุ้น ได้ประโยชน์จากเปิดประเทศ

ล่าสุดวันนี้ 12 ตุลาคม 2564 บล.เคทีบีเอสที ออก บทวิเคราะห์  แนะ 5 หุ้นเด่นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ และราคาหุ้นยังฟื้นตัวช้า ประกอบด้วย

  • AOT (ซื้อ/เป้ า 75.00 บาท) ได้ประโยชน์มากสุดจากแผนเปิดประเทศ ส่งผลให้การท่องเที่ยวที่จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นช่วยหนุนผลการดำเนินงานเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ 1QFY22E
  •  ERW (ถือ/เป้ า 3.00 บาท) คาดจำนวนนักท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวได้ ซึ่งจะช่วยให้ผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวได้ดีกว่าคาดตั้งแต่ 4Q21E เป็นต้นไป ซึ่ง ERW ได้ประโยชน์มากที่สุดจากสัดส่วนรายได้ในประเทศไทยสูงที่สุดในกลุ่มที่ 88%
  • AMATA (ถือ/เป้ า 19.00 บาท) นักลงทุนจะสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ง่ายขึ้นทำให้ยอด presale และ transfer จะดีขึ้น ถึงแม้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นจีนที่ยังไม่อนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ แต่คาดว่าจะได้รับ Sentiment เชิงบวกของยอด transfer ที่จะเพิ่มขึ้น จากฐานที่ต่ำในช่วงปี 2020-21E
  • CPALL (ซื้อ/เป้ า 67.00 บาท) คาดรัฐบาลจะเริ่มคลายเคอร์ฟิวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่จะเริ่มกลับมาซึ่งจะทำให้ trafficในร้านสะดวกซื้อสูงขึ้น
  • BH (Non coverage) เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้ผู้ป่วยต่างชาติสูงที่สุดในกลุ่มรองลงมาเป็ น BDMS (ซื้อ/เป้ า 26.50 บาท)ซึ่งจะได้ประโยชน์จากผู้ป่วยต่างชาติ fly-in เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม medical tourism ที่อยู่ในกลุ่มประเทศยุโรปและสหรัฐอเมริกา (5% ของรายได้รวม) และตะวันออกกลาง (5% ของรายได้รวม)

เปิดรายชื่อหุ้นได้อานิสงส์\"เปิดประเทศ\" ชูกลุ่มนิคม-รับเหมา