พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม เฝ้าระวังการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันนี้ (วันที่ 28 ธ.ค.64) ท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ได้มอบหมายให้มารับผิดชอบในเรื่องการติดตามตรวจสอบการทำการประมง
รวมทั้งในส่วนของภาคแรงงานประมง รวมถึงสิ่งสำคัญ ก็คือการบังคับใช้กฎหมาย วันนี้เป็นครั้งแรกที่มีประชุมในฐานะคณะทำงานติดตามสถานการตรวจ ติดตาม ควบคุมเฝ้าระวังการทำประมง และแรงงานในภาคประมง ครั้งที่ 1/2564 สิ่งที่เราเห็นก็คือ ความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าร่วมกันเพื่อให้สถานการณ์การทำประมง สถานการณ์การตรวจสอบ การบังคับใช้กฎหมาย ให้เป็นไปตาม พระราชกำหนดการประมงฯ ให้มีประสิทธิภาพ
"วันนี้ที่ได้เน้นย้ำในที่ประชุม ก็คือ เน้นในเรื่องประสิทธิภาพของคน ประสิทธิภาพของระบบ เป็นสำคัญ เช่นการตรวจ ต้องมีการบูรณาการร่วมกันทั้งในส่วนของกระทรวงแรงงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมประมง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศุลกากร กรมเจ้าท่า เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะทำงานร่วมกัน รวมถึง ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ( ศรชล.) ด้วย อยู่ภายใต้กำกับกองทัพเรือ”
“วันนี้การทำงานแบบมีประสิทธิภาพเป็นสำคัญ หมายถึง คน และอุปกรณ์ เครื่องมือ แต่ว่าคนเป็นหลักสำคัญ วันนี้ไม่ว่าจะออก พ.ร.ก.การประมงฯ จะออกมากี่ฉบับ หรือจะแก้ไขกฎหมายกี่ฉบับ ถ้าคนไม่ทำงานตามมาตรฐาน สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นไม่ได้ วันนี้ที่ผมเน้นหนักก็คือเรื่อง ประสิทธิภาพของคน ของบุคลากร มาตรฐานในการตรวจ มาตรฐานในการบังคับใช้กฎหมาย"
แต่ว่าในส่วนของผู้ประกอบการประมง หรือ สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ไม่ต้องกังวล ให้ทำไปตามปกติ ให้สบายใจ เพราะในส่วนที่เราดำเนินการเพื่อจะทำให้ภาพรวมของการทำประมงดีขึ้น ต่างชาติยอมรับ เอ็นจีโอเชื่อมั่นเชื่อถือ
อย่างไรก็ดีจากการประชุมในวันนี้ในการกำหนดวงรอบการทำงานได้มีการส่งข้อมูลให้ทุกวันอังคารและวันศุกร์ ซึ่งในวันอังคารจะเป็นเรื่องของการตรวจสอบเพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ส่วนวันศุกร์ จะนำข้อมูลทั้งหมด มาวิเคราะห์เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการจับกุม เพราะฉะนั้นในการทำงานวันนี้เริ่มจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเข้มงวด การวิเคราะห์ข้อมูล จริงจัง และการดูแลพี่น้องชาวประมงอย่างปลอดภัยและยั่งยืน ผมจะเน้นในเรื่องนี้
พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า แน่นอนที่ผ่านมาผมไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน ก็มีในเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นการจับกุมทางบก แต่เมื่อมารับงานตรงนี้ สิ่งที่ต้องทำก็คือต้องทำการบ้านให้เร็ว ต้องเรียนรู้ให้เร็ว คณะทำงานก็มีอยู่ 2-3 ส่วน ต้องยอมรับว่ากำลังพลของกรมประมงมีน้อย แต่ตำรวจมีกำลังมาก เช่นเดียวกับทหารเรือ ดังนั้นด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้จึงเป็นเหตุผลให้ท่านรองนายกรัฐมนตรี “ประวิตร” จึงได้สั่งให้มีการบูรณาการร่วมกัน
“วันนี้ต่างคนต่างตรวจ ทำอะไรไม่ได้เลย วันนี้ต้องเข้าใจว่าระบบเทคโนโลยีที่เราใช้มีสูงขึ้น แน่นอนส่วนหนึ่งผู้ที่ลักลอบทำการประมงที่ผิดกฎหมายก็มีวิธีการขั้นตอนที่ศึกษาการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมจะต้องลงไปในพื้นที่เอง การลงไปบนเรือเอง การลงไปควบคุมการปฏิบัติงานเองอย่างใกล้ชิด และการสร้างความเข้าใจให้กับต่างชาติ และ สหภาพยุโรป (อียู)"
รวมทั้งการนำเอ็นจีโอ ในองค์กรต่างๆ เข้ามาเป็นภาคีเครือข่ายที่มาทำงานกับเราไว้เนื้อเชื่อใจกับเรา ส่วนชุด ทำงาน 4 ชุด มีการตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะเริ่มปฏิบัติในสัปดาห์หน้าจะมีผลงานเป็นที่ประจักษ์
"ผมพยายามทำงานให้เร็ว วันนี้หลักคิดต้องคิดไปไกล แน่นอนการรักษาธงเขียว เป็นนโยบายสำคัญ แต่เราต้องคิดไปให้ไกลว่าจะทำอย่างไรให้ยั่งยืนจะไม่คิดว่าจะทำเพียงแค่ให้อียูมาตรวจสอบอย่างเดียว แต่ต้องคิดไปให้ไกลกว่านั้นว่าจะทำอย่างไรให้ทำการประมงของประเทศไทยมีความยั่งยืน และเป็นที่ยอมรับ เชื่อมั่นเชื่อถือของคนไทยและต่างประเทศ"
เปิดคณะทำงาน ไล่ล่าประมงผิดกฎหมาย
เปิดรายชื่อคณะทำงานชุด 1
เปิดรายชื่อคณะทำงานชุดที่ 2
ชุด 3 จู่โจมกลางทะเล
ชุด 4 ชุดปฎิบ้ติการเคลื่อนที่เร็ว