รัฐบาลถอดโมเดลแก้หมูแพง ต่อยอดสู่ปาล์มน้ำมัน โดยเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 พาณิชย์จังหวัด 77 จังหวัด ได้รับการประสานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีบัญชาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์มทั่วประเทศ โดยขอให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด แหล่งผลิต และจัดเก็บน้ำมันปาล์ม
ดำเนินการดังนี้ 1. จัดส่งแผนการตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์มของคณะทำงานระดับจังหวัด 2.ประสานตำรวจในพื้นที่ร่วมตรวจสอบสต๊อกผู้ประกอบการ และ 3.ประชาสัมพันธ์การตรวจสต๊อก เพื่อป้องปรามการฉวยโอกาสกักตุนน้ำมันปาล์ม
จากกรณีดังกล่าว นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค.มารีน เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ประกอบการขนส่งทางเรือและท่าเทียบเรือ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ รายงานสต๊อกน้ำมันปาล์ม ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 มีปริมาณรวม 172,657 ตัน (กราฟิกประกอบ) จากสต๊อกน้ำมันปาล์มที่ระดับเพื่อความมั่นคง (Safety Stock) อยู่ที่ 2.5 แสนตัน
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปี 2563 สต๊อกอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน แต่ที่ต่างกันคือในปี 2563 ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO)โลก อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 10-20 บาท แต่ตอนนี้อยู่ที่ 44-46 บาทต่อ กก. ส่วนหนึ่งผลจากอัตราแลกเปลี่ยน
สำหรับปาล์มน้ำมันของไทยเวลานี้มีผลผลิตลดลง จึงคาดการณ์ว่า เมื่อผลผลิตและสต๊อกลดลง ราคาปาล์มแนวโน้มน่าจะขยับขึ้น โดยราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศ ณ วันที่ 26 ม.ค. 2565 อยู่ที่ 55-56 บาท สูงกว่าตลาดโลก ผลพวงจากโรงสกัดและโรงกลั่นน้ำมันปาล์มแย่งซื้อ ดันราคาผลปาล์มสูงถึง 12 บาท ต่อกก. (ณ วันที่ 23 ม.ค.) ถือเป็นราคาที่สูงเป็นประวัติการณ์
“ราคาผลปาล์มคาดจะลดลงประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ (ราคา 26 ม.ค.เหลือ 11.80 บาทต่อ กก.) จากจะมีผลผลิตรอบใหม่เริ่มออกสู่ตลาด โดยราคาจะเป็นไปตามกลไกตลาด เมื่อผลผลิตเริ่มมากราคาก็จะปรับลง ส่วนราคาตลาดโลกไม่แน่ใจอนาคตจะขึ้นหรือลง ไม่มีใครตอบได้”
แหล่งข่าวอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน กล่าวว่า เข้าใจรัฐบาลที่ต้องการดูแลผู้บริโภคไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนมากจากราคาน้ำมันปาล์มขวดที่ปรับขึ้นในเวลานี้ตามกลไกตลาดที่กระทรวงพาณิชย์ได้ปล่อยน้ำมันปาล์มลอยตัวมาตั้งแต่ปี 2562 ราคาน้ำมันปาล์มขวดที่สูงขึ้นมากในเวลานี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ผู้ที่ได้อานิสงส์คือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม แต่ผลผลิตในช่วงนี้ก็มีไม่มาก ดังนั้นรัฐบาลไม่ควรเข้าไปแทรกแซง
“หากคำนวณโครงสร้าง น้ำมันปาล์มดิบในประเทศเวลานี้ที่ 50 บาทต่อกิโลกรัม นำไปผลิตน้ำมันบริโภคขนาด 1 ลิตร ต้นทุนการกลั่น รวม VAT 7% บวกเข้าไปอีก 15-16 บาท ราคาจะอยู่ที่ 65 บาทต่อขวดลิตร”
ผู้สื่อข่าวได้สำรวจราคาน้ำมันปาล์มขนาด 1 ลิตรที่เทสโก้โลตัส สาขา ลาดพร้าว-วังหิน (26 ม.ค.) น้ำมันปาล์มยี่ห้อทับทิมขายที่ 58 บาท, โอลีน 59 บาท และหยก 59 บาท ส่วนร้านค้าโชห่วย ผู้ค้าแจ้งว่า รับซื้อมาราคา 61.50 บาท ต้องขายในราคา 65 บาท
ด้านพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้จัดชุดเฉพาะกิจ ร่วมกับกรมการค้าภายใน พาณิชย์จังหวัด และตำรวจพื้นที่ เข้าตรวจสอบโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบที่มีอยู่ในพื้นที่ 25 จังหวัด โดยส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ เช่น กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช ปัตตานี พังงา ระนอง พัทลุง สงขลา สตูล สุราษฎร์ธานี นราธิวาส เป็นต้น
โดยให้ทำการสุ่มตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์มของโรงสกัด โรงกลั่นและคลังน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ หากพบว่าไม่มีการแจ้งการครอบครองจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 หากพบมีการกักตุนสินค้า มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง หรือหากมีการแจ้งการครอบครองไม่ตรงกับความเป็นจริง ก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.137 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หน้า 9 ฉบับที่ 3,753 วันที่ 30 มกราคม -2 กุมภาพันธ์ 2565