ฐานเศรษฐกิจ ยังคงเกาะติดประเด็นใหญ่ต่อเนื่อง กรณีที่มีการตรวจสอบพบว่ามีบุคคลฉกทรัพย์ เป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท ของ “สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร”
ซึ่งปัจจุบันท่านละสังขาร มรณภาพด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และยังอยู่ในช่วงของการสวดอภิธรรมบำเพ็ญกุศล
ฐานเศรษฐกิจ ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าววัดบวรและทีมสืบสวน ถึงพฤติกรรมของลูกศิษย์คนสนิทชื่อ “เนย” ที่สมเด็จพระวันรัต ให้ความเอ็นดู เลี้ยงดูและไว้ใจอย่างมาก
ข้อมูลเชิงลับ เล่าถึงพฤติกรรมของนายเนย ปัจจุบันทำงานอยู่กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ระดับประเทศของเจ้าสัวรายใหญ่คนหนึ่ง
อาศัยความสนิทและความไว้เนื้อเชื่อใจของคนรอบข้างสมเด็จพระวันรัต ดำเนินการยักยอกเงินของสมเด็จพระวันรัต ในส่วนของการบูรณะวัดบวรนิเวศและวัดสาขา
ซึ่งข้อมูลชุดนี้คณะกรรมการวัด ได้ประสานให้ดำเนินการตรวจสอบในทางลับ จนนำไปสู่ข้อกล่าวหา “ฉ้อโกง” และ “ปลอมแปลงเอกสาร” ในเบื้องต้น
การยักยอกทรัพย์เกิดขึ้นครั้งใหญ่ ในช่วงที่ สมเด็จพระวันรัต เข้ารับการรักษาอาการอาพาทที่โรงพยาบาล เนยเป็นไม่กี่คนที่สามารถเข้า-ออก ห้องรักษาตัวได้อย่างสนิทใจ แต่กลับพบว่าเป็นการเข้าไปดำเนินการยักยอกทรัพย์
“ในช่วงที่สมเด็จพระวันรัตท่านป่วย นายเนยได้เข้าไปเยี่ยมหลายครั้ง และมีการยักยอกเงินออกไปในช่วงนั้น โดยนายเลยได้มีการปลอมบัญชีปลอมลายเซ็นของสมเด็จพระวันรัตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวงเงินเพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์วัด โดยทยอยเบิกเงินอยากหยอกจากบัญชีออกไปคราวละ 30 ล้าน 80 ล้านบาท” แหล่งข่าวให้ข้อมูลกับฐานเศรษฐกิจ
แต่ทว่าเมื่อนายเนยได้เงินมา ไม่ได้เก็บเป็นเงินสด แต่นำเงินไปซื้อบ้าน รถหรูยี่ห้อดัง อาทิ ลัมโบร์กีนี เฟอร์รารี รวมทั้งซื้อ เพชร ทอง นาฬิกาหรูมาสวมใส่จนทำให้บุคคลในวัดบวรด้วยกันเองและคนรอบข้างก็สงสัยว่านายเนยนำเงินมาจากไหนมากมายขนาดนั้น