โดยปกติจะใช้เพื่ออนุรักษ์สมุนไพรที่กำลังจะสูญหาย และมีราคาแพง เช่น กวาวเครือ เพื่อจำกัดการครอบครองช่อดอกกัญชาทั้งระดับบุคคลและวิสาหกิจชุมชน เเต่มีรายละเอียดการควบคุมการครอบครองต่างกัน เพื่อป้องกันการเสพหรือใช้เพื่อสันทนาการ
คลิกอ่าน : พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542
ใจความสำคัญ ของประกาศ สธ. ฉบับล่าสุด
- อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ครอบครอง ใช้ประโยชน์ ดูแล เก็บรักษา ขนย้าย
- จำหน่ายสมุนไพรควบคุม (กัญชา) ได้
- ห้ามการใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะโดยการสูบ
- ห้ามจำหน่ายกัญชาให้แก่ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ หรือสตรีที่ให้นมบุตร
เมื่อพิจารณาภายใต้ประกาศ สธ. ฉบับนี้ เน้นไปที่อนุญาตให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ผู้ประกอบโรคศิลปะการแพทย์แผนจีน และหมอพื้นบ้านตามกฎหมาย สามารถใช้ประโยชน์จากกัญชาประกอบการรักษาผู้ป่วยได้
บทลงโทษ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542
- เน้นไปที่โทษของการอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมข้างต้น
- แต่มีบทลงโทษสำหรับ ผู้มีไว้ครอบครอบสมุนไพรควบคุมเกินจำนวน ตามมาตรา 79 ระบุว่า
- ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 51 ให้ผู้มีไว้ในครอบครองซึ่งสมุนไพรควบคุมเกินกว่าจํานวนหรือปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดตามมาตรา 45 (1) อยู่ในวันที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา กําหนดให้สมุนไพรน้ันเป็นสมุนไพรควบคุม แจ้งการครอบครองสมุนไพรควบคุมนั้นต่อนายทะเบียนสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตามพระราชบัญญัตินี้ภายในระยะเวลาที่กําหนดไว้ในประกาศดังกล่าวสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่ เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นับตั้งแต่มีการประกาศปลดล็อกกัญชา 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา จนวันนี้เป็นเวลา กว่าหนึ่งสัปดาห์ แรกเริ่ม ประกาศ สธ. เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้เมื่อ 9 มิ.ย. 2565 ส่งผลให้ทุกส่วนของกัญชา กัญชง ไม่เป็นยาเสพติด ยกเว้นสารสกัดที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนาบินอล (tetrahydrocannabinol - THC) เกิน 0.2 % ที่ยังเป็นยาเสพติด ถูกประกาศลงราชกิจจานุเบกษาตั้งแต่ 9 ก.พ. 2565
การสูบกัญชาถูกกฎหมาย
- ไม่มีความผิดกฎหมายยาเสพติด
- แต่สูบกัญชาในที่สาธารณะ รบกวนสิทธิผู้อื่น มีความผิดตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 25,000 บาท
- การสูบกัญชาในที่สาธารณะ ยังไม่มีกฎหมายควบคุมโดยตรงเช่น บุหรี่ ที่มี พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ควบคุมอยู่
กัญชา กัญชง ที่ใช้ในอาหารที่ผลิตเพื่อจำหน่ายถูกกฎหมาย
- เฉพาะส่วนของพืชที่กำหนดในประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ เมล็ดกัญชง น้ำมันจากเมล็ดกัญชง โปรตีนจากเมล็ดกัญชง ผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน รากและใบ ซึ่งไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วย
- ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีการใช้ประโยชน์จากสารสกัด CBD ผู้ประกอบการขอขึ้นทะเบียนตำรับอาหารหรือขออนุญาตใช้ฉลากอาหาร
- เงื่อนไขชนิดอาหาร ปริมาณ THC และ CBD และแสดงคำเตือนเป็นไปตามที่ประกาศกำหนด
- ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะผลิตอาหารเพื่อจำหน่าย ต้องดำเนินการยื่นขอรับเลขสถานที่ผลิตอาหารและเลขสารบบอาหารด้วย
สารสกัดพืชกัญชา กัญชง ที่ถูกกฎหมาย
- ไม่ว่าจะเป็นการนำส่วนใดของพืชกัญชา กัญชง ไปสกัด สารสกัดที่ได้จะมี THC เท่าใดก็ตาม ต้องขออนุญาตผลิตสกัดตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด (ยกเว้นการสกัดจากเมล็ด) โดยผลผลิตสารสกัดที่ได้ แบ่งเป็น 2 ส่วน
- สารสกัดที่มี THC ไม่เกิน 0.2 % จะได้รับการยกเว้นไม่เป็นยาเสพติดให้โทษ
- สารสกัดที่มี THC เกิน 0.2 % จัดเป็นยาเสพติดให้โทษ
การจำหน่ายกัญชาแบบถูกกฎหมาย
- การจำหน่ายส่วนของพืชกัญชา ไม่ต้องขอรับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด
- การจำหน่ายเมล็ดพันธุ์และกิ่งพันธุ์ต้องขอรับอนุญาตตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518
- การจำหน่ายสารสกัดที่ได้รับอนุญาตให้สกัดตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด
- กรณีเป็นสารสกัดที่มี THC ไม่เกิน 0.2 % ไม่ต้องมีใบอนุญาตจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ
- สารสกัดที่มี THC เกิน 0.2 % ต้องมีใบอนุญาตจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ และผู้ซื้อต้องมีใบอนุญาตเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษด้วย
- การจำหน่ายผลิตภัณฑ์เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยผลิตภัณฑ์นั้น
การนำเข้ากัญชา กัญชง
ทุกส่วนของพืชกัญชา กัญชง ห้ามนำเข้าสารสกัด ยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้
- กรณีเพื่อการศึกษาวิจัย
- กรณีเป็นหน่วยงานรัฐเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์
นำเข้าเมล็ดกัญชา กัญชง และส่วนอื่น ๆ เช่น เปลือก ลำต้น ใบ เส้นใย กิ่งก้าน ราก ยอดหรือช่อดอก ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ หรือเป็นวัตถุดิบในการผลิตสารสกัด
- ต้องขอรับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507
- กรณีนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชา กัญชง ต้องขออนุญาตนำเข้าตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 ด้วย
- เมื่อได้รับอนุญาต หากจะนำพืชกัญชา กัญชงมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ สุขภาพ หรือเป็นวัตถุดิบในการผลิตสารสกัดจากกัญชา กัญชงให้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วย ผลิตภัณฑ์สุขภาพนั้น ๆ
- กรณีนำมาผลิตเป็นอาหาร ไม่สามารถนำเข้าได้ เนื่องจากจัดเป็นอาหารห้ามนำเข้า
- กรณีนำผลิตเป็นเครื่องสำอาง ไม่สามารถนำเข้าได้ เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่ห้ามนำเข้า
- กรณีนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ให้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ซึ่งหากได้รับอนุญาตให้ผลิตถูกต้องตามกฎหมายแล้ว การพิจารณาตรวจสอบการนำเข้าเพื่อเป็น วัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ก็สามารถดำเนินการได้เช่นเดียวกัน
การนำเข้า นำติดตัวเพื่อใช้เฉพาะตน ของกัญชา กัญชง
- การนำติดตัวผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
- การส่งทางพัสดุ/ไปรษณีย์ระหว่างประเทศ กำหนดหลักเกณฑ์การนำเข้าเพื่อใช้เฉพาะตัวไว้ว่า
- ผู้นำเข้าต้องเป็นบุคคลธรรมดา มีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาใช้เฉพาะตัวของผู้นำเข้าเอง พิจารณาจากรูปแบบของสินค้าที่นำเข้า เช่น เครื่องมือแพทย์ หรือวัตถุอันตราย หรือ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พิจารณาจากวัตถุประสงค์การใช้งานบนฉลากผลิตภัณฑ์
- หากผลิตภัณฑ์ จัดเป็นอาหาร หรือเครื่องสำอาง จะไม่สามารถนำเข้าได้ เนื่องจากจัดเป็นอาหารห้ามนำเข้า หรือเป็นเครื่องสำอางที่ห้ามนำเข้า
- การนำเข้าในรูปแบบส่วนต่าง ๆ ของพืช ต้องได้รับอนุญาตให้นำเข้าตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 ก่อน หากนำเข้ามาเป็นอาหาร เพื่อบริโภคส่วนตัวจะไม่สามารถนำเข้าได้ เนื่องจากจัดเป็นอาหารห้ามนำเข้าตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 424 พ.ศ. 2564
- ส่วนกรณีนำเข้าส่วนต่าง ๆ ของพืชกัญชา กัญชง มาเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อใช้เฉพาะตัว ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยผลิตภัณฑ์สมุนไพร
กัญชาในอาหาร
กรมอนามัย ออกประกาศกรมอนามัย เรื่อง การนำใบกัญชามาใช้ในการทำ ประกอบหรือปรุงอาหาร ในสถานประกอบกิจการอาหาร พ.ศ. 2565 จำนวน 2 ฉบับ
ประกาศฉบับเเรก
รวม 6 ข้อ สาระสำคัญคือ กำหนดให้สถานประกอบการ กิจการอาหาร ต้องควบคุม กำกับ และจัดให้มีการสื่อสารข้อมูลด้านสุขภาพและต้องตระหนักด้านความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการจำหน่ายอาหารที่มีการใช้ใบกัญชาเป็นส่วนประกอบของอาหาร
อ่านเพิ่มเพิม : กัญชาทำอาหารใส่ได้กี่ใบ ถูกกฎหมายเช็คประกาศกรมอนามัยล่าสุด
ข้อความคำเตือนที่ถูกระบุไว้ในประกาศของกรมอนามัยมี 4 ข้อความ
- "เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน"
- "หากมีอาการผิดปกติ ควรหยุดรับประทานทันที"
- "ผู้ที่แพ้หรือไวต่อสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol, THC) หรือสารแคนนาบิไดออล (Cannabidiol, CBD) ควรระวังในการรับประทาน"
- "อาจทำให้ง่วงซึมได้ ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล"
ประกาศฉบับที่ 2
กำหนดให้สถานประกอบกิจการอาหาร มีการจัดเก็บใบกัญชาที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ จัดเก็บเป็นสัดส่วน อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ไม่ทำให้เกิดเชื้อรา หรือเน่าเสีย"ภายใต้ประกาศของกรมอนามัย สถานประกอบกิจการอาหารครอบคลุมถึง ตลาด สถานที่จำหน่ายอาหาร สถานที่สะสมอาหาร และการจำหน่ายในที่หรือทางสาธารณะ
คุมกลิ่น-ควัน กัญชา กัญชง
สธ. ออกประกาศเพื่อป้องกันการสูบ หรือในพื้นที่สาธารณะ โดยราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ.2565 เมื่อ 14 มิ.ย.
เพราะควันอาจทำให้เสี่ยงต่อการเจ็บป่วย เช่น โรคปอด หอบหืด หลอดลมอักเสบ จึงกำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เว้นแต่พืชที่มีกฎหมายอื่นควบคุมแล้ว จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง หรือผู้ที่ต้องประสบกับเหตุนั้น เป็นเหตุรำคาญ ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข
บทลงโทษ ผู้ก่อเหตุรำคาญ
- หากได้รับแจ้งจากเจ้าพนักงานให้ปรับปรุงแก้ไข แต่ไม่ยอมดำเนินการ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านเพิ่มเติม : เปิดบทลงโทษ กลิ่น-ควัน"กัญชา กัญชง" เป็นเหตุรำคาญ