นายคีแนน กวอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งเก็ทลิงส์ กล่าวว่า เก็ทลิงส์ ได้ประกาศเปิดตัวชุดเอกสารข้อมูล(ไวท์เปเปอร์) เก็ทลิงส์ เครือข่ายและข้อมูลต่างๆ สำหรับรูปแบบการกระจายค่าตอบแทนให้แก่บรรดาทาเลนต์แบบไร้ตัวกลาง และการสำรวจจากการเพิ่มขึ้นของเครือข่าย Web 3.0 และโมเดลกระจายค่าตอบแทนทางเศรษฐกิจ
เอกสารข้อมูล (ไวท์เปเปอร์) กล่าวถึงปัญหาที่มีอิทธิพลต่อพนักงาน และวิธีการกำหนดการทำงานในช่วงการระบาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันทาเลนต์สามารถเลือกงานที่เหมาะสมกับความสามารถและความต้องการของทาเลนต์เอง ไม่เหมือนในอดีตอีกต่อไป เนื่องจากว่าเหล่าทาเลนต์พยายามค้นหาค่าตอบแทนที่เป็นธรรมแก่ตัวพวกเขา
การนำบล็อคเชนมาใช้เพื่อการตรวจสอบและยืนยันเรซูเม่ ยังไม่สามารถแก้ไขรูปแบบของงานในท้องตลาดได้ทั้งหมด เว้นแต่ว่าเราต้องการค้นหาจุดที่ด้อยของทาเลนต์เพื่อที่จะแก้ไข ก็คือ”เงิน” เงินและระบบนิเวศที่ให้บริการไม่ได้มีการปรับให้เหมาะสม เนื่องจากตัวกลางของเว็บเป็นรูปแบบศูนย์รวมและต้นทุนการทำธุรกรรมที่สูง
รวมถึงข้อมูลของทาเลนต์และทรัพยากรบุคคลจำนวนมหาศาลที่รวบรวมได้จากทั่วเอเชีย พิสูจน์ให้เห็นว่า “เงิน” ที่จ่ายและหามาได้มักจะห่างไกลจากจำนวนที่ "ยุติธรรม" ภายใต้ระบบของบล็อคเชน
เก็ทลิงส์ ได้สร้าง LINKS Token เพื่อขับเคลื่อนระบบนิเวศแบบกระจายค่าตอบแทนทั้งหมด และสร้างแรงจูงใจให้แก่ทุกภาคส่วนในการขยายเครือข่าย การแลกเปลี่ยน LINKS Token ขึ้นอยู่กับกิจกรรมทางธุรกรรมที่สร้างขึ้นโดยนายจ้าง ทาเลนต์ และนักลงทุนรวมไปถึงหุ้นส่วน
ดังนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงมีความยืดหยุ่นและหลากหลายมากขึ้น ในสภาพแวดล้อมการทำงานและรูปแบบค่าตอบแทน ในขณะที่ ผู้ที่ไม่ได้ใช้แพลตฟอร์มนี้ จะต้องพยายามดิ้นรนในการดึงดูดทาเลนต์กันต่อไป โดยช่วงการระบาดของ COVID-19 ได้ทำให้เกิดการลาออกครั้งใหญ่ (big quit) ซึ่งโดยปกติแล้วอภิมหาการลาออก มักถูกกล่าวเชื่อมโยงถึงแรงงานสหรัฐฯ แต่ปรากฏการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องของทั่วโลก
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกันกว่า 4 ล้านคน ลาออกจากงานในเดือนกรกฎาคม 2564 และในเดือนเมษายนเป็นเดือนที่มีการลาออกสูงสุด และยังคงสูงอย่างผิดปกติในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยมีระบุอีกว่าปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีตำแหน่งงานว่างที่ทำลายสถิติกว่า 10.9 ล้านตำแหน่ง ผู้คนออกจากงานเพื่อต้องการหาเงิน มีความยืดหยุ่น และมีความสุขที่มากขึ้น นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และแนวโน้มนี้ กำลังเร่งก่อตัวขึ้นในขณะที่ยังคงมีโรคระบาดอยู่
ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและโซเชียลมีเดีย ทำให้พนักงานสามารถค้นหาตำแหน่งงานใหม่ๆ จากทั่วโลกได้ง่ายกว่าที่เคย ความแพร่หลายที่เพิ่มขึ้นของการทำงานทางไกล ทำให้ในบางกรณี พนักงานจะไม่จำเป็นต้องย้ายที่อยู่เพื่อเริ่มงานใหม่อีกต่อไป
การนำบล็อคเชนมาใช้เพื่อการตรวจสอบและยืนยันเรซูเม่ ยังไม่สามารถแก้ไขรูปแบบของงานในท้องตลาดได้ทั้งหมด เว้นแต่ว่าเราต้องการค้นหาจุดที่ด้อยของทาเลนต์เพื่อที่จะแก้ไข ก็คือ”เงิน” เงินและระบบนิเวศที่ให้บริการไม่ได้มีการปรับให้เหมาะสม เนื่องจากตัวกลางของเว็บเป็นรูปแบบศูนย์รวมและต้นทุนการทำธุรกรรมที่สูง รวมถึงข้อมูลของทาเลนต์และทรัพยากรบุคคลจำนวนมหาศาลที่รวบรวมได้จากทั่วเอเชีย พิสูจน์ให้เห็นว่า “เงิน” ที่จ่ายและหามาได้มักจะห่างไกลจากจำนวนที่ "ยุติธรรม" ภายใต้ระบบของบล็อคเชน
เก็ทลิงส์ ได้สร้าง LINKS Token เพื่อขับเคลื่อนระบบนิเวศแบบกระจายค่าตอบแทนทั้งหมด และสร้างแรงจูงใจให้แก่ทุกภาคส่วนในการขยายเครือข่าย การแลกเปลี่ยน LINKS Token ขึ้นอยู่กับกิจกรรมทางธุรกรรมที่สร้างขึ้นโดยนายจ้าง ทาเลนต์ และนักลงทุนรวมไปถึงหุ้นส่วน
ดังนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงมีความยืดหยุ่นและหลากหลายมากขึ้น ในสภาพแวดล้อมการทำงานและรูปแบบค่าตอบแทน ในขณะที่ ผู้ที่ไม่ได้ใช้แพลตฟอร์มนี้ จะต้องพยายามดิ้นรนในการดึงดูดทาเลนต์กันต่อไป โดยช่วงการระบาดของ COVID-19 ได้ทำให้เกิดการลาออกครั้งใหญ่ (big quit) ซึ่งโดยปกติแล้วอภิมหาการลาออก มักถูกกล่าวเชื่อมโยงถึงแรงงานสหรัฐฯ แต่ปรากฏการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องของทั่วโลก
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกันกว่า 4 ล้านคน ลาออกจากงานในเดือนกรกฎาคม 2564 และในเดือนเมษายนเป็นเดือนที่มีการลาออกสูงสุด และยังคงสูงอย่างผิดปกติในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยมีระบุอีกว่าปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีตำแหน่งงานว่างที่ทำลายสถิติกว่า 10.9 ล้านตำแหน่ง ผู้คนออกจากงานเพื่อต้องการหาเงิน มีความยืดหยุ่น และมีความสุขที่มากขึ้น นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และแนวโน้มนี้ กำลังเร่งก่อตัวขึ้นในขณะที่ยังคงมีโรคระบาดอยู่
ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและโซเชียลมีเดีย ทำให้พนักงานสามารถค้นหาตำแหน่งงานใหม่ๆ จากทั่วโลกได้ง่ายกว่าที่เคย ความแพร่หลายที่เพิ่มขึ้นของการทำงานทางไกล ทำให้ในบางกรณี พนักงานจะไม่จำเป็นต้องย้ายที่อยู่เพื่อเริ่มงานใหม่อีกต่อไป