นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ออกมาทวิตข้อความ เปิดเผยว่า แสนสิริ อนุมัติให้พนักงานที่ต้องการผ่าตัดแปลงเพศ สามารถลางานได้ 30 วัน มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2565
พร้อม เขียนข้อความตอนท้ายว่า...บางทีขของขวัญปีใหม่สำรับบางคน อาจจะไม่ใช่ของมีค่าหรูหรา แต่เป็น "ความเท่าเทียม" และการยอมรับความแตกต่าง
ข้อความทวิตดังกล่าว ถือเป็นการตอกย้ำนโยบายด้านความเท่าเทียมของบริษัท แสนสิริ ซึ่งก่อนหน้านี้ ในช่วงเทศกาลโลก Pride Month แสนสิริได้ร่วมลงนามกับ UN Global Standards of Conduct for Business สนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียมในองค์กร และนำมาตรฐาน 5 ข้อปฏิบัติมาปรับใช้ในสถานที่ทำงาน การดำเนินธุรกิจ และการอยู่ร่วมในชุมชน
ไม่ว่าจะเป็น การเคารพสิทธิมนุษยชนของกลุ่ม LGBTQ+, ไม่เลือกปฏิบัติทุกรูปแบบที่มีต่อพนักงาน LGBTQ+, ให้การสนับสนุน สร้างความเชื่อมั่น และเสริมสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกแก่พนักงานที่เป็น LGBTQ+, ป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งอาจเกิดจากการกีดกันต่อลูกค้า คู่สัญญา คู่ค้า รวมถึงบุคคลอื่นๆ และผลักดันประเด็นเรื่องความเท่าเทียมอย่างเป็นสาธารณะ
นอกจากนี้ ยังผนึกกับ 15 พันธมิตรทั้ง ไลฟ์สไตล์, กีฬา, ธนาคาร, EV charging และคู่ค้า SMEs รณรงค์ พร้อมเปิดแคมเปญ “Live Equally…เราเท่ากัน” สดุดีความเท่าเทียม รับเทศกาล Pride Month ตลอดเดือนมิถุนายนของทุกปี ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ Live Equally...เรา เท่ากัน
ในแคมเปญดังกล่าว แสนสิริได้ปรับโลโก้ ลดจำนวน Stack จาก 5 ชั้นเหลือ 2 ชั้น เพื่อสะท้อนถึงเครื่องหมาย “เท่ากับ” ( = ) สื่อความหมายถึงความเท่าเทียม พร้อมทั้งจัด Art Installation ที่ Sansiri Backyard ใน T77 community โชว์สัญลักษณ์กระจกวงกลม กับคอนเซ็ปท์ “Circle of Equality เราเท่ากัน ฉันเท่าเธอ” สะท้อนถึงความเท่าเทียมทุกมิติตลอดเดือนมิถุนายน 2564 รวมไปถึง นายเศรษฐา ยังร่วมพูดคุย เสวนา Podcast “เท่าไหน...ที่เท่ากัน” และยังชวนเหล่า influencers คนดังในสังคม ติด hashtag #Live Equally photo challenge สร้างการรับรู้และส่งเสริมความเท่าเทียมในทุกมิติ