นายสามารถ ศรีกำปัง ผู้จัดการฟาร์มนนทรี บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ เป็นหัวใจสำคัญต่อการเพาะปลูกของเกษตรกร และบนพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) "โครงการปันน้ำปุ๋ยสู่ชุมชน" ที่ดำเนินการโดย ซีพีเอฟ จึงถูกสานต่อมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 20 ปี
น้ำปุ๋ยที่ฟาร์มสุกรและฟาร์มไก่ไข่ของซีพีเอฟปันให้เกษตรกรใช้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เป็นน้ำที่ผ่านการบำบัดจากระบบผลิตก๊าซชีวภาพ เพื่อให้ชุมชนนำไปใช้เพื่อการเกษตร พืชไร่ และพืชสวน
สำหรับฟาร์มนนทรี ปันน้ำปุ๋ยให้ชุมชนใช้มาตั้งแต่ปี 2550 เกษตรกรให้ความมั่นใจในน้ำปุ๋ยที่ได้จากฟาร์ม โดยที่ทางฟาร์มมีการทำงานร่วมกันเป็นทีม เช่น การทำแปลงนาสาธิต และนำน้ำปุ๋ยจากฟาร์มมาใส่ในนาข้าว มีหน่วยงานของซีพีเอฟเข้ามาร่วมให้ความรู้และทำงานไปด้วยกัน คือ หน่วยงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวโพดและหน่วยงานตรวจวิเคราะห์คุณภาพดิน เข้ามาช่วยให้ความรู้และคำแนะนำ เพื่อให้เกษตรกรมั่นใจว่าน้ำปุ๋ยของเราใช้ได้จริง เกิดประโยชน์ ได้ผลดี ผลผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายผลผลิตด้วย
นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยการนำน้ำปุ๋ยจากฟาร์มไปใช้ได้ผลเป็นอย่างดี มีการขยายผลของโครงการ มีเกตรกรเพิ่มขึ้นทุกๆปี
สำหรับกระบวนการน้ำปุ๋ยที่เกิดจากการเลี้ยงสุกร น้ำที่ได้จากมูลสุกรถูกรวมและส่งเข้าไปในระบบไบโอแก๊ส หรือบ่อหมัก ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการหมัก 45 วัน ส่วนของที่เหลือจากการหมัก คือ กากตะกอนและน้ำ น้ำในส่วนนี้ เรียกว่าน้ำปุ๋ย จะผ่านการหมุนเวียน การบำบัด จนได้คุณสมบัติที่เหมาะสมกับพืชมาให้เกษตรกร โดยก่อนที่จะนำไปใช้ จะมีการตรวจวัดคุณภาพน้ำให้เหมาะสมกับคุณภาพดินของพื้นที่และพืชแต่ละชนิด น้ำปุ๋ยจึงเป็นน้ำที่มีธาตุอาหารที่เหมาะสมกับการปลูกพืช ครบถ้วนเหมาะสมต่อการปลูกพืช เช่น ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ยูคาลิปตัส อ้อย เป็นต้น
"เราปันน้ำให้เกษตรกรรอบฟาร์ม ทำให้เกษตรกรรอบฟาร์มลดต้นทุนในการผลิตเรื่องการใช้ปุ๋ยเคมี สามารถลดการใช้ปุ๋ยได้ 50 % และสามารถเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรในแต่ละปี น้ำปุ๋ยทำให้ปลูกพืชในช่วงแล้งได้ ในช่วงที่มีน้ำน้อย ก็จะปันนน้ำปุ๋ยให้เกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรได้ปลูกพืชอย่างอื่นเสริม นอกจากพืชที่ปลูกอยู่เป็นประจำ ดีใจที่ช่วยให้เกษตรกรมีผลผลิตและมีรายได้เพิ่มขึ้น"