เปิดตัวไปแล้วสำหรับ คู่มือ “มิชลิน ไกด์” ฉบับกรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ ภูเก็ต และพังงา ประจำปี 2565 ซึ่งเป็นคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พัก “มิชลิน ไกด์” ฉบับที่ 5 ของประเทศไทย โดยในบรรดาสุดยอดร้านอาหารที่ได้รับการคัดเลือกทั้งหมดรวมกว่า 361 แห่งในปีนี้ มีหลายไฮไลต์ร้านอาหารวัตถุดิบคุณภาพ รสชาติอาหารชั้นเลิศ การันตรีโดย “มิชลิน สตาร์” ที่ไม่ควรพลาดไปลิ้มลอง
เริ่มจากร้านอาหารติดอันดับ “1 ดาวมิชลิน” ในปีนี้มีร้านอาหารจำนวน 26 แห่ง ได้รับการคัดสรรแล้วว่าเป็นร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิม และมีร้านอาหาร 6 แห่งที่คว้า 1 ดาวมิชลินเป็นครั้งแรก โดยทุกร้านอยู่ในกรุงเทพฯ นั่นก็คือ
“อักษร”
ร้านอาหารไทยที่นำเสนอเมนูอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำราอาหารไทยยุคปี พ.ศ. 2480-2515 ซึ่งรวมถึงเมนูเด่นที่หารับประทานที่อื่นไม่ได้ เช่น ขนมครกหน้าหมูเค็ม และหลนเต้าหู้ยี้เสิร์ฟกับใบมะตูมแขกและใบมะกอก
“Cote by Mauro Colagreco”
ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยที่นำเสนอตำรับอาหารร่วมสมัยซึ่งได้รับอิทธิพลจากอาหารประจำถิ่นเฟรนช์ริเวียรา ทั้งในเมนูเซ็ตอาหารกลางวัน, เมนูอาหารแบบเลือกสั่ง หรือ “อะลาคาร์ท” (A La Carte) และเมนูมื้อเย็นที่เชฟเป็นผู้เลือกให้กับลูกค้า หรือ “คาร์ท บล็องช์” (Carte Blanche) แบบ 9 คอร์ส
Gaa
ร้านอาหารสไตล์นวัตกรรมซึ่งนำเสนอจานเด็ดอินเดียต้นตำรับที่ปรุงด้วยเทคนิคใหม่ๆ และจัดแต่งอย่างทันสมัย รวมทั้งอาหารชุดแบบ Tasting Menu ที่ยกขบวนสตรีตฟู้ดอินเดียซึ่งปรับโฉมใหม่ให้ลงตัวทั้งกลิ่นรสและเนื้อสัมผัสมาให้ลิ้มรส
IGNIV
ร้านอาหารยุโรปร่วมสมัยที่นำเสนออาหารยุโรปสมัยใหม่ในรูปแบบแชร์ริ่ง (Sharing) อาหารขึ้นชื่อ คือ นักเก็ตไก่ที่กรอบนอกแต่ด้านในชุ่มฉ่ำ ซึ่งเสิร์ฟมาพร้อมซอสบาร์บีคิวสูตรพิเศษของร้าน
Savelberg (ซาเวลเบิร์ก)
จัดว่าเป็นร้านติดอันดับครั้งแรกเนื่องจากย้ายสถานที่ตั้งใหม่ ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยที่นำเสนอเมนู “อะลาคาร์ท” (A La Carte) และเซ็ตเมนูที่รังสรรค์ด้วยวัตถุดิบชั้นดีจากหลากหลายประเทศและปรุงด้วยฝีมืออย่างพิถีพิถัน
Yu Ting Yuan
ร้านอาหารจีนกวางตุ้งซึ่งนำเสนออาหารที่สะท้อนศิลปะความเชี่ยวชาญในการปรุงเป็นอย่างดี เมนูที่ไม่ควรพลาดคือเป็ดปักกิ่งหนังกรอบ และติ่มซำรสเยี่ยม
ส่วนร้านอาหารที่คว้ารางวัล “2 ดาวมิชลิน” หรือ ร้านอาหารยอดเยี่ยม ที่ควรค่าแก่การขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม ยังคงเดิมอยู่ที่ 6 ร้านได้แก่
Chef’s Table
ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย @ ทาวเวอร์คลับ แอท เลอบัว ประสบการณ์ดินเนอร์กลางห้องอาหารโดดเด่นด้วยเครื่องดูดควันสุดหรูเหนือเตาหินอ่อน เชฟมีมุมมองที่เปิดกว้าง และเทคนิคการปรุงอาหารที่ทุกคอร์สรังสรรค์ออกมาได้อย่างงดงาม โดยใช้วัตถุดิบชั้นเลิศจากทั่วทุกมุมโลก
เลอ นอร์มังดี
จุดหมายปลายทางของผู้ที่ชื่นชอบอาหารฝรั่งเศสชั้นสูง ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2501 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล ที่ขึ้นชื่อทั้งการใช้วัตถุดิบชั้นยอดและเทคนิคชั้นสูง ที่ทุกเมนูถูกปรุงอย่างลงตัว รวมไปถึงการบริการเป็นเลิศ
เมซซาลูน่า
ร้านอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย ของโรงแรมเลอบัว ประสบการณ์ดินเนอร์สไตล์ยุโรปร่วมสมัย ที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น
R-Haan
ร้านอาหารไทย ย่านสุขุมวิท กับคอนเซ็ปต์ของอาหารพื้นบ้าน อาหารไทยคลาสสิกไปจนถึงอาหารชาววัง ซึ่งดึงรสชาติของวัตถุดิบต่างๆผ่านเทคนิคการปรุงที่หลากหลาย และการจัดแต่งจานอันประณีตสวยงาม
ศรณ์
ร้านอาหารใต้ต้นตำรับท้องถิ่น ย่านสุขุมวิท ที่พร้อมคืนชีวิตให้แก่ศิลปะแห่งอาหารใต้ที่เคยสูญหายไปตามกาลเวลา
Suhring
ร้านอาหารยุโรปร่วมสมัย ในซอยเย็นอากาศ ซึ่งเชฟคู่แฝดนำเสนออาหารเยอรมันในรูปแบบปากะศิลป์ชั้นเลิศ โดยผสมผสานความทรงจำในวัยเด็ก ตำรับอร่อยอร่อยของครอบครัว ประสบการณ์เดินทาง และศิลปะการครัวแถบยุโรปกลางเข้าด้วยกัน
มิชลิน ไกด์ ไม่ได้คัดสรรแต่ร้านอาหารระดับหรูเท่านั้น แต่ยังมีรางวัล “บิบ กูร์มองด์” ซึ่งครอบคลุมทั้งร้านประเภทภัตตาคาร ตลอดจนร้านและรถเข็นริมทาง สำหรับร้านอาหารที่นำเสนออาหารคุณภาพดีซึ่งผ่านการจัดเตรียมอย่างพิถีพิถันในราคาที่ย่อมเยาคุ้มค่าไม่เกิน 1,000 บาท (ราคาสำหรับอาหาร 3 คอร์ส ได้แก่ อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก และของหวาน ไม่รวมเครื่องดื่ม) ซึ่งในปีนี้มีทั้งหมด 133 ร้าน ในจำนวนนี้เป็นร้านที่ติดอันดับครั้งแรก 33 แห่ง
อาทิ แกงป่า (ลุงสง่า) ร้านอาหารป่าในกรุงเทพฯรสจัดจ้าน, เธียนดอง ร้านอาหารเวียดนามที่เสิร์ฟอาหารเวียดนามต้นตำรับ บ้านตะโกราย จ.พระนครศรีอยุธยา ร้านท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารไทยพื้นบ้านปรุงจากวัตถุดิบในชุมชนและปลาน้ำจืดสดๆ ในพื้นที่ โรตีสายไหมอาบีดีน-ประนอม แสงอรุณ ร้านโรตีสายไหมที่เปิดขายมานานกว่า 70 ปี ครัวหลองข้าว จ.เชียงใหม่ ร้านอาหารเหนือที่นำเสนอความอร่อยด้วยการใช้เครื่องปรุงสดใหม่ ปาท่องโก๋แม่ปราณี จ.ภูเก็ต ร้านสตรีทฟู้ดขนาดเล็กที่ทำหน้าที่เสิร์ฟความอร่อยยามเช้ามานานหลายปี ทั้งปาท่องโก๋กรอบนอกนุ่มใน และซาลาเปาทอด ที่มีนมข้นหวานและสังขยาให้เลือกจิ้มเสริมรส
ขณะเดียวกันยังมี 6 ร้านอาหารที่ได้รับการเลื่อนระดับรางวัล “บิบ กูร์มองด์” จากปีก่อน ได้แก่ “ป.โภชยา” ร้านสตรีทฟู้ดเก่าแก่ในกรุงเทพฯที่เปิดบริการมานานกว่า 30 ปี เสิร์ฟอาหารไทย-จีนคุณภาพ รวมถึงอาหารจานเด็ดหาทานยาก เมนูยอดนิยม ได้แก่ เนื้อผัดใบยี่หร่า และไข่เจียวปู “ศรีตราด” ร้านอาหารที่คัดสรรจานเด็ดประจำจังหวัดตราดซึ่งปรุงด้วยสูตรลับของครอบครัวและจัดแต่งอย่างพิถีพิถันมานำเสนอถึงกรุงเทพฯ เมนูเด็ดคือ กุ้งลายเสือผัดพริกเกลือ และปลากระพงต้มส้มระกำ “บ้านลันได” ร้านอาหารที่เลือกสรรตำรับอร่อยทั่วไทยมานำเสนอ จานเด็ดประจำร้านคือ ซี่โครงหมูอบซอสไวน์แดงรสละมุนกรุ่นกลิ่นสมุนไพร
“แมกโนเลีย คาเฟ่” ร้านอาหารที่เสิร์ฟตำรับไทยคัดสรรจากทั่วทุกภูมิภาค “ครัวเก๋ากึ๊ก” ร้านอาหารที่เสิร์ฟตำรับอร่อยสไตล์เปอรานากันดั้งเดิมสูตรของครอบครัว เช่น หอยหวานสดตัวอวบต้มตะไคร้ “ขาหมูโบราณ” (สาขากะทู้) ร้านสตรีทฟู้ดที่ขายขาหมูโบราณมานานกว่าสามทศวรรษ นอกจากขาหมูที่ผ่านการตุ๋นหลายชั่วโมงจนเนื้อเปื่อยล่อนจากกระดูก สิ่งที่ทำให้ข้าวขาหมูของที่นี่พิเศษกว่าที่อื่น คือ น้ำซุปกระดูกหมูกลิ่นหอมเข้มข้นที่มีเนื้อชิ้นโต
ใครสนใจดูรายชื่อร้านอาหารทั้งหมดที่ได้รับคัดสรรและจัดอันดับอยู่ในคู่มือ “มิชลิน ไกด์” ประจำปี 2565 สามารถ คลิ๊กที่นี่
นอกจากนี้ความพิเศษของมิชลิน ไกด์ ในปีนี้ ยังมี 3 รางวัลใหม่เพิ่มเข้ามา นั่นก็คือ “MICHELIN Guide Young Chef Award” รางวัลที่มอบให้กับสุดยอดเชฟรุ่นใหม่ที่โดดเด่นของร้านอาหารระดับดาวมิชลิน ซึ่งการิมา อาโรรา (Garima Arora) จากร้าน Gaa เชฟหญิงชาวอินเดียคนแรกที่คว้าดาวมิชลินมาครองได้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 อาหารที่เชฟการิมารังสรรค์เน้นไปที่การนำเทคนิคประกอบอาหารแบบอินเดียดั้งเดิมมาประยุกต์เข้ากับวัตถุดิบที่หาได้ภายในท้องถิ่น
“MICHELIN Guide Service Award” รางวัลสำหรับบุคลากรของร้านอาหารผู้ใส่ใจในงานบริการอย่างยอดเยี่ยม ตกเป็นของ “ทีโบ ชารล์มาที” จากร้าน Co^te by Mauro Colagreco ซึ่งมีความเป็นมืออาชีพและผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี ลำดับขั้นตอนของการให้บริการจึงดำเนินไปอย่างราบรื่นและสมบูรณ์แบบชนิดไร้ที่ติ
รวมไปถึง “MICHELIN Green Star” หรือ “ดาวมิชลินรักษ์โลก” รางวัลนี้จะมอบให้กับร้านอาหารที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่ง “PRU” หรือ “พรุ” ไม่เพียงได้รับ1 ดาวมิชลินในภูเก็ตเท่านั้น ยังเป็นร้านอาหารร้านแห่งแรกและแห่งเดียวในไทยที่ได้รับรางวัลนี้ และในปีนี้ยัง รักษาสถานะ “ดาวมิชลินรักษ์โลก” เอาไว้ได้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
โดยรางวัลมิชลินกรีนสตาร์นี้มอบให้กับร้านอาหารที่ดำเนินกิจการและมีแนวปฏิบัติประจำวันด้านการประกอบอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน หนึ่งในโครงการริเริ่มที่โดดเด่นของ PRU คือ “พรุจำปา” สวนผักออร์แกนิคพื้นบ้านของทางร้านที่ใช้ปลูกพืชผัก สมุนไพร และดอกไม้สำหรับประกอบอาหาร ฟาร์มแห่งนี้ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นแนวคิดและวิถีการเกษตรอย่างยั่งยืน (Permaculture) ที่ PRU ยึดมั่นอย่างเป็นรูปธรรม
แต่ยังตอบโจทย์เรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่น การใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลในท้องถิ่น 100% ในการสร้างสรรค์เมนูอาหาร ทำให้การรับประทานอาหารที่ PRU เป็นประสบการณ์ที่ผสานรสชาติอันเป็นเลิศเข้ากับความมุ่งมั่นใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยบทบาทและวิสัยทัศน์ดังกล่าว ร้านอาหารแห่งนี้จึงมีบทบาทโดดเด่นในฐานะแหล่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักชิมและธุรกิจร้านอาหารในวงกว้างนั่นเอง
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,749 วันที่ 16 - 19 มกราคม พ.ศ. 2565