เราขับรถเลียบชายฝั่ง ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระยอง ชม “หาดแสงจันทร์” เพลินๆ มองไปฝั่งตรงข้าม ก็ถึงที่หมาย “ฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง” (Fortune Saeng Chan Beach Rayong) โรงแรมสไตล์โมเดิร์น บนอาคารไลว์ไรซ์สูง 7 ชั้น ดีไซน์สุดชิลล์ มีห้องพักให้เลือกมากถึง 6 รูมไทป์ จากทั้งหมด 107 ห้อง ด้านหน้าติดทะเล ด้านหลังเห็นวิวป่าชายเลน ป่าโกงกางผืนใหญ่
โรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง โรงแรมระดับ 4 ดาว ของกลุ่ม “ซีพีแลนด์” จัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทุกรูมไทป์การตกแต่งในห้องพักจะเหมือนกัน เน้นโทนสีขาว ฟ้า เหลือง ทำให้ห้องพักดูโปร่งโล่ง ทันสมัย น่านอน ทั้งยังมีระเบียงให้ชมวิวทุกห้อง
แต่จะแตกต่างกันตรงที่ขนาดของห้องพัก ซึ่งห้องเล็กที่สุด จะเป็น “ห้องดีลักซ์” มีพื้นที่ 29 ตร.ม. ไปจนถึงห้องใหญ่สุด คือ “ห้องเอ็กเซ็คคิวทีฟ สวีท วิวทะเล” กินพื้นที่กว่า 59 ตร.ม. รวมถึงวิวทิวทัศน์นอกห้องพัก ที่ก็มีให้เลือกทั้ง วิวสระว่ายน้ำ วิวทะเล และวิวแม่น้ำ
วันนี้เราเลือกห้องพักแบบ “ห้องดีลักซ์ วิวแม่น้ำ” เพราะอยากได้ฟิลลิ่งที่แตกต่าง ซึ่งก็คิดไม่ผิดเลย แม้ขนาดห้องจะมีพื้นที่ 29 ตร.ม. แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป ด้วยดีไซน์ โทนสี และการตกแต่ง บอกเลยว่าพักสบาย ไม่ได้รู้สึกว่าห้องเล็กเลย ยิ่งเมื่อมองจากระเบียงออกไป
ว๊าวมากๆ กับวิวแม่น้ำทอดยาว ขนานไปกับป่าชายเลนพื้นที่อนุรักษ์ทางธรรมชาติของระยอง หรือ โครงการป่าในเมืองจ.ระยอง
บอกเลยว่าวิวหลักล้านมากๆ กับค่าห้องพักราคาหลักพัน จะหาวิวเลอค่าแบบนี้ได้ที่ไหน ที่เรานอนชมวิวป่าชายเลนผืนใหญ่ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชุ่มปอด
เราพักห้องนี้สัมผัสได้เลยว่า วิวเบื้องหน้าให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างมากในแต่ละช่วงเวลา เราต้องใช้เวลาพักใหญ่ เพื่อเด้งขึ้นจากเตียงในห้องพัก ที่นอนสบายมาก ประมาณเตียงดูดวิญญาณเลย
เปิดม่านชมบรรยากาศยามเช้า เรารู้สึกได้ถึงการเริ่มวันใหม่ท่ามกลางความเสียงสงบของสายน้ำและผืนป่าชายเลน เติมเต็มวันดีๆสำหรับการเริ่มต้นวันใหม่ การได้นั่งชิลล์ตรงระเบียงมองวิวเขียวขจีในแบบ 180 องศา มันดีต่อใจมากๆ ขณะที่ช่วงอาทิตย์ตกดิน ก็ได้ฟิวไปอีกแบบ
หากใครอยากจะใกล้ชิดป่าชายเลนมากกว่านี้ ห่างจากโรงแรมไม่ไกล ก็แวะไปเดินศึกษาธรรมชาติ กันได้ ณ “ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ” ป่าในเมืองกว่า 300 ไร่ ซึ่งจะมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เดินสบายๆบนทางเดินไม้ทอดยาวไว้ให้เลือกเดินได้เลย ตั้งแต่ 654 เมตร ไปจนถึง 1,840 เมตร
นอกจากจะเราจะได้ชมพรรณไม้และสัตว์ต่างๆ ที่ดำรงชีวิตอยู่ในป่าชายเลนแล้ว ยังแวะไปนมัสการเจดีย์กลางน้ำได้ด้วย
หรือถ้าขี้เกียจเดิน แถวนั้นก็บริการล่องเรือชมป่าชายเลน รอบเกาะเจดีย์กลางน้ำด้วย รับรองได้สัมผัสวิถีชีวิตในป่าชายเลนไปเต็มๆ ไม่ใช่แค่เพียงมองส่วนหนึ่งของป่าโกงกางแห่งนี้ได้จากในห้องพักเท่านั้น
ส่วนใครไม่อยากไปเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติป่าชายเลน แค่เลือกที่จะมองวิวจากห้องพักก็ฟินแล้ว
สำหรับใครชอบทะเล ห้องพักวิวทะเลของโรงแรม ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน วิวของ “หาดแสงจันทร์” หรือ Moonlight Beach มีเอกลักษณ์ ดูแปลกตามากกับการทำแนวกันคลื่นเป็นรูปทรงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว มีรูปลักษณ์เหมือนเป็นครึ่งวงกลม ที่โค้งต่อๆกัน ช่วงแดดดีๆแสงแดดสะท้อนน้ำทะเลเป็นสีฟ้าใสแจ่มว๊าวมากๆ
ช่วงแดดร่มลมตก เหมาะมากกับการนั่งเล่นริมหาด ถ่ายรูปสวยๆบนโขดหิน และไฮไลต์คือการชมพระอาทิตย์ตกดิน โรแมนติกสุดๆ เนื่องจากชายหาดแห่งนี้ไม่ได้พลุกพล่าน แค่ข้ามถนนเส้นเล็กๆหน้าโรงแรมก็ถึงชายหาดแล้ว ซึ่งชายหาดหน้าโรงแรมจัดว่าใหญ่ที่สุดแล้วในเส้นนี้
หรือจะเลือกชมวิวหาดแสงจันทร์ พร้อมๆกับเอนจอยอยู่ในสระว่ายน้ำ ก็ฟิน ซึ่งสระว่ายน้ำที่นี่ มีสระเด็ก มีสไลเดอร์สำหรับเด็กๆ
รวมถึงสระใหญ่จะเป็นสระว่ายน้ำแบบ Infinity edge pool ทำให้ว่ายน้ำไป สามารถชมวิวทะเลไป พร้อมสัมผัสกลิ่นอายทะเลได้อย่างใกล้ชิด
ด้านบนของสระว่ายน้ำ ก็จะมีฟิตเนสขนาดใหญ่ เข้าทางสายเอ็กเซอร์ไซส์ไปเต็มๆ
มาที่นี่ไม่ได้แค่พักสบาย แต่ยังกินอร่อยด้วย ห้องอาหารแม้จะมี 1 ห้อง คือ “ห้องอาหารกลิ่นจันทร์” แต่ด้วยบุฟเฟ่ต์มื้อเช้า ที่มีเมนูหลากหลาย ก็กินอาหารเช้ากันชนิดอิ่มพุงกางกันเลย
จริงอยู่ที่แหล่งไดนิ่งริมทะเลในโซนหาดแสงจันทร์ แม้จะมีให้เลือกอยู่หลายร้าน แต่ร้านที่ลองทานแล้วอร่อยและวัตถุดิบสดมากๆ ไม่ต้องไปไหนไกลเลย “ห้องอาหารกลิ่นจันทร์” ในโรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง ที่เราพักนั่นแหละ
ห้องอาหารนี้อยู่บริเวณชั้น 1 ของโรงแรม รองรับได้ 92 ที่นั่ง นอกจากไลน์บุฟเฟ่ต์มื้อเช้าที่บริการผู้เข้าพักในโรงแรม ห้องอาหารแห่งนี้ยังมีเมนูอะลาคาร์ท ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.
ห้องอาหารแห่งนี้จะเป็นอาหารสไตล์ “Thai and Western Crusine” มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายในบรรยากาศการตกแต่งแบบร่วมสมัย เมนูแนะนำที่เราชอบมากๆ คือ “พิซซ่าทะเล” อร่อยสุดเท่าที่เคยกินมาเลย ปลาหมึก กุ้งสด เนื้อเด้ง ไม่ต้องใส่ซอสเลย แป้งบางกรอบ ชีสยืดๆ
เมนูอาหารไทยคือห้ามพลาด เราออร์เดอร์ “ปลากระพงทอดสมุนไพร” รสชาติเข้มข้น เนื้อปลาทอดหั่นเป็นชิ้นๆ ทานง่ายยิ่งขอน้ำจิ้มซีฟู้ดคือแซบ ทั้งยังมีตะไคร้ทอดเป็นเส้นเล็กๆเวลาเคี้ยวให้รสสัมผัสกรุบกรอบ ทานคู่กับถั่วฝักยาวทอดนิ่มๆ
อีกเมนู คือ “กุ้งทอดพริกเกลือ” กระเทียมทอดเน้นๆมาพร้อมกุ้งกรอบเต็มจานรสชาติเค็มนิดๆกรอบๆเคี้ยวเพลิน และ “ต้มยำกุ้ง” ยกนิ้วให้เลยกับรสชาติละมุนกลมกล่อม ไม่เค็มหรือเปรี้ยวโดด เหนืออื่นใดทุกเมนูที่เป็นซีฟู้ดคือสดมาก
ปิดท้ายด้วยขนมหวาน “บัวลอยน้ำขิง” ชอบมากที่อาหารในแต่ละจานก็มาเยอะเต็มจาน ทั้งราคายังจับต้องได้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นห้องอาหารในโรงแรม
พักที่นี่ชาร์จแบต รับพลังธรรมชาติได้เต็มร้อยเลย
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,923 วันที่ 17 - 20 กันยายน พ.ศ. 2566