นับตั้งแต่อีซูซุ ดีแมคซ์ เปิดตัวสู่ตลาดประเทศไทยในปี 2545 จวบจนปัจจุบันมียอดขายสะสมกว่า 4 ล้านคัน ล่าสุดอีซูซุ ได้ทำการพัฒนา ดีแมคซ์ เจเนอเรชันที่ 3 พร้อมทั้งเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกไปเมื่อวันทื่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนรถรุ่นใหม่จะมีเป้าหมายอย่างไร จะสร้างพลานุภาพพลิกโลกขนาดไหน วันนี้ผู้กุมบังเหียนอย่าง “โทชิอากิ มาเอคาวะ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จะมาเป็นผู้บอกเล่า
โทชิอากิ มาเอคาวะ
รถรุ่นใหม่ มาพร้อมแนวคิด “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์” พลานุภาพ...พลิกโลก!” มีการออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน พัฒนาด้วยแนวคิด BOLD, EMOTIONAL AND SMART ขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ แพลตฟอร์มใหม่ ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม พร้อมนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ สนนราคาช่วงแนะนำ (ตั้งแต่ 19 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2562) เริ่มต้นที่ 5.1 แสนบาท-1.164 ล้านบาท เปิดขายพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่ 19 ตุลาคม ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ
สำหรับ“ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์” มีให้เลือกทั้ง เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที และอีกหนึ่งเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เจเนอเรชันที่ 2 รุ่น รหัส RZ4E-TC ที่ได้รับการพัฒนาให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้ง เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดใหม่ และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ อาทิ ไฟหน้า Isuzu Vision Bi-LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟ Multifunctional Daylight แบบ Built-in และไฟตัดหมอก LED ไฟท้าย Dual-Sonic LED กันชนท้าย Integrated Bumper
โครงสร้างตัวถังเสริมเหล็ก ULTRA-HIGH TENSILE แชสซีส์ใหม่ ขนาดใหญ่ รับแรงบิดสูงขึ้น 23% ช่วงล่างหน้าใหม่แบบอิสระปีกนก 2 ชั้น DOUBLE WISHBONE with COIL SPRING และช่วงล่างหลังแหนบยาวแบบ LONG SPAN เทคโนโลยีใหม่ WSSP
อีซูซุมีกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นลูกค้าที่มีความจงรักภักดีกับแบรนด์ เมื่อเราออกรถรุ่นใหม่มา ลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะรอคอยและซื้อใหม่ แต่สำหรับดีแมคซ์ เจเนอเรชันที่ 3 นี้ เราต้องการขยายเข้าหากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ซึ่งอาจจะเป็นลูกค้าที่มองหารถเก๋ง หรือมองหารถคันที่ 2 หรือ 3 ของบ้าน
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เรามองหาลูกค้าใหม่ คือ อายุเฉลี่ยของลูกค้าที่ซื้อรถอีซูซุ จากเดิมอายุเยอะ พอมาเจเนอเรชันที่ 2 เริ่มอายุน้อยลง และตอนนี้เข้าสู่ยุคที่ 3 ทำให้เราคาดการณ์ว่าอายุเฉลี่ยของลูกค้าอาจจะน้อยลงไปเรื่อยๆ
ก่อนเราเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้มีการปล่อยทีเซอร์โฆษณาออกมา และลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาสอบถามข้อมูลต่างๆ ที่โชว์รูม และบางคนก็จองทั้งๆ ที่ไม่เห็นรถและยังไม่เห็นราคา ส่วนการเปิดตัวในวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมาได้เชิญดีลเลอร์ทั่วประเทศมาร่วมงาน ซึ่งหลังจากนี้เราคงต้องรอดูการตอบรับของลูกค้าว่าเป็นอย่างไร
ส่วนการปรับราคานั้น เฉลี่ยขึ้นมาประมาณ 1 หมื่นบาท ด้านสัดส่วนการขายของดีแมคซ์ ส่วนมากจะแบ่งเป็น รุ่น 4 ประตู 45%, สเปซ แค็บ 40% และซิงเกิล แค็บ 15% โดยเราคาดว่าลูกค้าจะเลือกซื้อรุ่นวี-ครอส (ซึ่งเรานับรวมไปในสัดส่วนการขาย 4 ประตู) เพราะเป็นรุ่นท็อป สเปกฟังก์ชันต่างๆ จัดเต็ม รองลงมาคือสเปซ แค็บตัวเตี้ย
ตามแผนที่วางไว้เราจะเริ่มส่งออกในปีหน้า แต่หากผลการตอบรับของตลาดในประเทศดี ก็จะป้อนในประเทศก่อน
- เป้าหมายยอดขายของอีซูซุ
อีซูซุ มีส่วนแบ่งการตลาดในปีที่ผ่านมา 33% ดังนั้นหากรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดได้เท่าเดิมก็พอใจแล้ว ทั้งนี้เพราะมีปัญหาเรื่องกำลังการผลิตของรุ่นใหม่ที่ต้องปรับไลน์ทั้งหมด และคาดว่าไลน์การผลิตจะเริ่มเข้าที่เข้าทางในต้นปีหน้า ส่วนปัญหาเรื่องแรงงานในภาคอุตสาหกรรมนั้น อีซูซุยืนยันว่าไม่ได้มีการปรับลดแต่อย่างใด
- ภาพรวมตลาดรถยนต์
ยอดขายรถยนต์รวมตั้งแต่ มกราคม-กันยายน เติบโต 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งหากประเมินจากสถานการณ์ในตอนนี้ คาดว่ายอดรวมทั้งปีน่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา หรือราวๆ 1.04 ล้านคันหรืออาจจะน้อยกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย โดยไตรมาส 4 แต่ละค่ายมีการเปิดตัวรถใหม่ และเป็นช่วงหน้าขาย ทำให้คาดว่าตลาดน่าจะกลับมาเท่าเดิม ส่วนปัจจัยภายนอกอย่างสงครามการค้า หรือสถานการณ์โลก ที่มีความไม่แน่นอนก็ต้องรอดู ด้านเงินบาทที่แข็งค่า ตรงจุดนี้ก็มีผลกระทบกับขีดความสามารถในการแข่งขันของเราต่อตลาดโลก
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,516 วันที่ 24-26 ตุลาคม 2562