บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ประเดิมปีพ.ศ.2563 ด้วยการเปิดตัว “ซีรีส์ 7 ไมเนอร์เชนจ์” หรือ LCI (Life Cycle Impulse) ปรับโฉมเพิ่มออพชันเพื่อความเร้าใจในช่วงกลางอายุโมเดล หลังจากรถยนต์รุ่นเรือธง เจเนอเรชันที่6 รหัสตัวถัง G12 ถูกนำเข้ามาเปิดตัวในไทยครั้งแรกช่วงปลายปี 2558
บีเอ็มดับเบิลยู แบ่งการขายเป็น 2 รุ่นเครื่องยนต์คือ 745Le xDrive M Sport ปลั๊ก-อินไฮบริด และ 730Ld sDrive M Sport ขุมพลังดีเซล พร้อมยกระดับความหรูหราผ่านการออกแบบ สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบความบันเทิง และระบบความปลอดภัย
ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นว่ารุ่นก่อนหน้า 30% พร้อมขอบโครเมียมที่เชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียว ทั้งยังมีระบบ Active Air Flap Control เปิด-ปิดแผ่นในกระจังหน้าอัตโนมัติเพื่อระบายความร้อนในเครื่องยนต์ ส่วนไฟหน้าทรงเรียวยาวมาพร้อมระบบ Adaptive LED ในรุ่น 730Ld sDrive M Sport ส่วนรุ่น 745Le xDrive M Sport เป็นระบบ Laserlight
สำหรับตราสัญลักษณ์บีเอ็มดับเบิลยูบนกระโปรงหน้า มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ขึ้น 13 มิลลิเมตร ช่องดักอากาศด้านล่างกระจังหน้ามาพร้อมแผ่นปรับทิศทางลม เพื่อสร้างการไหลเวียนของอากาศเข้าไปยังช่องระบายอากาศของระบบเบรกและช่องดักลม
ท้ายรถออกแบบสไตล์ใหม่ มาพร้อมท่อไอเสียแต่งขอบโครเมียมขนาดใหญ่ขึ้น ไฟท้ายทรงเรียวยาวสามมิติในสีดำ/แดง และเส้นไฟด้านล่างแถบโครเมียมลากยาวระหว่างไฟท้ายสองข้าง ด้านล้ออัลลอย M ลาย Star-spoke ขนาด 20 นิ้วในรุ่น 745Le xDrive M Sport และล้ออัลลอย M ลาย Double-spoke แบบสลับสี ขนาด 19 นิ้วในรุ่น 730Ld sDrive M Sport
บีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive M Sport ระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุด โดยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3.0 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 394 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 600 นิวตันเมตร ประกบเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 5.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนี้ ความเร็วสูงสุดในการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าล้วนๆ(EV) ยังเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ถูกติดตั้งไว้ใต้เบาะที่นั่งหลังยังเพิ่มความจุเป็นขนาด 12 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถขยายระยะทางการขับเคลื่อนแบบ EV ได้ถึง 50-58 กิโลเมตร
ด้าน 730Ld sDrive M Sport เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตรที่ 2,000 –2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมช่วงล่างแบบถุงลมที่สามารถปรับระดับอัตโนมัติ และเทคโนโลยีแชสซีใหม่ Executive Drive Pro ที่ทำงานประสานกับระบบช่วงล่าง
ภายในห้องโดยสารใช้เบาะหนังแท้ Nappa ลายใหม่ปรับไฟฟ้า และระบบระบายอากาศทั้งตอนหน้าและตอนหลัง รวมทั้งระบบนวดผ่อนคลายสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหลัง เสริมความโอ่อ่าด้วยหลังคากระจก Panorama Sky Lounge ในรุ่น 745Le xDrive M Sport
ความบันเทิงในห้องโดยสารจัดเต็ม ทั้งจอระบบสัมผัสความละเอียดสูงบริเวณเบาะหลัง ระบบ BMW Live Cockpit Professional พร้อมระบบนำทาง จอแสดงผลดิจิทัลที่แผงคอนโซล ขนาด 12.3 นิ้ว และจอ Control Display ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมระบบกราฟฟิกรูปแบบใหม่ ทำงานด้วยระบบประมวลผล BMW Operating System 7.0 ควบคู่กับ BMW ConnectedDriveระบบผู้ช่วยส่วนตัวฉลาดล้ำ BMW Intelligent Personal Assistantพร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง
ผู้โดยสารเบาะหลังสามารถเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงเต็มรูปแบบจากหน้าจอขนาด 10 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ถึงสองจอ พร้อมด้วยเครื่องเล่นบลูเรย์ที่ติดตั้งมาด้วย โดยที่ผู้โดยสารสามารถใช้หน้าจอนี้ควบคุมระบบนำทางและฟังก์ชันออนไลน์ต่าง ๆ ของตัวรถได้โดยตรงจากเบาะหลัง นอกจากนี้ เสียงรบกวนจากภายนอกยังถูกกลั่นกรองออกไปด้วยด้วยกระจกกันเสียงที่หนากว่าเดิมถึง 5.1 มิลลิเมตร พร้อมด้วยฉนวนกันเสียงเพิ่มเติมรอบซุ้มล้อหลัง
บีเอ็มดับเบิลยู 745 Le xDrive M Sport ราคา 6,439,000 บาท และ 730Ld sDrive M Sport ราคา 6,139,000บาท พร้อมแพคเกจ BSI Standard บริการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม. และการรับประกัน 3 ปีไม่จำกัดระยะทาง