วานนี้ (27 ม.ค.) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดงานแถลงข่าวสรุปยอดขายในปี 2564 และเผยถึงแนวโน้มของตลาดรถยนต์ไทย แต่ไฮไลต์อยู่ที่การประกาศแผนเปิดตัว Toyota bZ4X ในไทยภายในปี 2565
ภายใต้กลยุทธ์ระดับโลก โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น พร้อมลงทุน 1.2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาและผลิต EV รุ่นใหม่ โดยวางแผนเปิดตัวรวม 30 รุ่นภายในปี 2573 และเงินจำนวนนี้ 6 แสนล้านบาท จะใช้ในการพัฒนาแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมตั้งเป้ายอดขาย EV ถึง 3.5 ล้านคันภายในปีดังกล่าว
ภายใต้โครงการนี้ โตโยต้าเตรียมเปิดตัว EV ตระกูล bZ จำนวน 7 รุ่น ภายในปี 2568 โดย 5 รุ่นแรกจะเป็นเอสยูวีขนาดกลาง คอมแพกต์เอสยูวี และเอสยูวีขนาดใหญ่ รวมถึงครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก และรถซีดาน ซึ่งการทำตลาดโมเดลแรกคือรุ่น Toyota bZ4X
Toyota bZ4X เป็นเอสยูวีขนาดกลาง พัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-TNGA มิติตัวถังยาว 4,690 มม.กว้าง 1,860 มม. สูง 1,650 มม.(รวมเสาอากาศ) ระยะฐานล้อ 2,850 มม. วางแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 71.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง
นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2564 โตโยต้าแนะนำ Lexus UX300e ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (EV) และ Lexus NX450h+รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด สำหรับแบรนด์โตโยต้ามีแผนเปิดตัว Toyota bZ4X รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของซีรีส์ bZ ออกสู่ตลาดภายในปีนี้ยิ่งไปกว่านั้น โตโยต้าจะพยายามส่งเสริมให้มีการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลัก สำหรับการประกอบรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลากหลายรุ่นต่อไปในอนาคต
โตโยต้าเป็นผู้ริเริ่มแนะนำเทคโนโลยีด้านยานยนต์ไฟฟ้าในไทยมาตั้งแต่ปี 2552 โดยครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 80% และมีการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าของโตโยต้ามากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ขณะเดียวกัน โตโยต้าสามารถลดคาร์บอนไดออกไซด์ลงไปได้ 148,000 ตัน ซึ่งเท่ากับการปลูกต้นไม้ 2 ล้านต้น
“เราจะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลัก สำหรับการประกอบรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลากหลายรุ่นต่อไปในอนาคต ซึ่งความมุ่งมั่นดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางของภาครัฐที่มุ่งเดินหน้าส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้า การพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ตลอดจนการบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนให้เป็นศูนย์” นายยามาชิตะ กล่าวสรุป
ทั้งนี้ หากโตโยต้ามีแผนประกอบ Toyota bZ4X ในไทย จะสามารถเข้าร่วมแพกเกจส่งเสริมให้เกิดการใช้ EV ในระยะเร่งด่วน ตามนโยบายของรัฐบาล ทั้ง ลดภาษีนำเข้า EV ญี่ปุ่นจาก 20% เหลือ 0% (เท่า EV จีน) ภาษีสรรพสามิต เหลือ 0% และกลุ่ม EV ที่ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท จะได้เงินสนับสนุน 1.5 แสนบาทต่อคัน
สำหรับยอดขายรถพลังงานไฟฟ้า EV ในไทยปี 2564 รวมทุกยี่ห้อประมาณ 2,000 คัน ในจำนวนนี้เป็นสัดส่วนของรถนำเข้ากว่า 90% โดย 2 รุ่นที่ขายดีคือ MG EP และ MG ZS EV