สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานความเคลื่อนไหวใน ตลาดรถยนต์สหรัฐอเมริกา ว่า ในที่สุด โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป. ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากญี่ปุ่น ก็สามารถทำ ยอดขายรถยนต์เป็นอันดับ1 ในสหรัฐอเมริกา เป็นผลสำเร็จเมื่อปีที่ผ่านมา (2021) โดยสามารถแซงหน้า เจเนอรัล มอเตอร์ หรือ จีเอ็ม แชมป์เก่าที่ครองตำแหน่งรถยนต์ยอดขายสูงสุดในสหรัฐมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1931 ซึ่งเป็นยุคสมัยการบริหารประเทศของประธานาธิบดีเฮอร์เบิร์ท ฮูเวอร์ และเป็นปีที่จีเอ็มสามารถคว้าแชมป์จากฟอร์ด มอเตอร์มาได้
ทั้งนี้ โตโยต้าสามารถทำยอดขายรถยนต์ในตลาดสหรัฐทั้งสิ้น 2.332 ล้านคันในปี 2021 ขณะที่จีเอ็มขายได้ 2.218 ล้านคัน
จีเอ็มให้เหตุผลของความเพลี่ยงพล้ำว่าเป็นเพราะปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ ชิ้นส่วนสำคัญในระบบรถยนต์ยุคปัจจุบัน ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้ยอดขายของจีเอ็มในตลาดสหรัฐไตรมาส 4/2021 ลดลง 43% และยอดขายโดยภาพรวมทั้งปี (2021) ลดลง 13% ขณะที่ยอดขายโตโยต้าเพิ่มขึ้น 10% เรียกว่าใครมีระบบซัพพลายเชนที่เหนือกว่าก็คว้ามงกุฎแชมป์ไป มงลงที่โตโยต้าเนื่องจากมีเครือข่ายผู้ผลิตชิปที่แข็งแกร่งหนุนอยู่ ทั้งนี้ หากมองในภาพรวมแล้วจะเห็นว่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า ฮอนด้า หรือนิสสัน ต่างก็สามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา สวนทางกับจีเอ็มที่ยอดขายลดลง ส่วนฟอร์ด มอเตอร์ รอแถลงยอดขายในวันพุธนี้ (ตามเวลาสหรัฐ)
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ชัยชนะของโตโยต้าอาจอยู่ได้ไม่นานนัก แม้แต่นายแจ๊ค ฮอลลิส รองประธานอาวุโสของโตโยต้าภาคพื้นอเมริกาเหนือ ก็ยอมรับว่าตำแหน่งแชมป์ที่ได้มาอาจไม่ยั่งยืน แต่ไม่ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติม ขณะที่นายสตีฟ คาร์ไลส์ ประธานของจีเอ็ม แสดงความเชื่อมั่นว่า ยอดขายของบริษัทจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ (2022) โดยมีภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแรงของสหรัฐเป็นแรงหนุน ประกอบกับเชื่อว่าปัญหาเซมิคอนดัคเตอร์ขาดแคลนจะคลี่คลายลง ซึ่งจะส่งผลต่อบวกทั้งต่อยอดขายและราหคาหุ้นของจีเอ็ม
การจะกลับมาครองแชมป์ได้อีกครั้งนั้น หมายความว่าจีเอ็มจะต้องทำให้ยอดขายให้ได้แตะๆ 2.5 ล้านคัน ซึ่งเป็นสถิติที่เคยทำไว้ในปี 2020 ดูแนวโน้มแล้วก็มีความเป็นไปได้ เพราะในปีก่อนหน้านั้น (2019) จีเอ็มก็เคยทำยอดขายถึง 2.9 ล้านคันมาแล้ว โดยช่วงเวลานั้นยังไม่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และยังไม่มีปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์
จีเอ็มให้ความสำคัญกับส่วนแบ่งตลาดเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายระยะยาวของบริษัทในการคว้ารายได้เพิ่มขึ้นสองเท่าเป็น 280,000 ล้านดอลลาร์ นั่นหมายความว่า นอกจากจะต้องรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเก่าที่เป็นผู้ซื้อรถเก๋งและรถปิคอัพที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเอาไว้ให้ได้แล้วยังต้องขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ชื่นชอบรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้อีกด้วย
สำหรับโตโยต้า การจะรักษาบัลลังก์แชมป์ที่เพิ่งได้มาเอาไว้ ต้องเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐอเมริกาให้ได้อีกมาก ๆ ทั้งนี้ ในปี 2020 โตโยต้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐจาก 14% ในปี 2018 เป็น 14.3% ขณะที่จีเอ็มครอบครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ 17.1% ในปี 2018 ต่อมาได้เพิ่มเป็น 17.3% ในปี 2020
จากข้อมูลของค็อกซ์ โอโตโมตีฟ (Cox Automotive) พบว่า ในปี 2021 ตลอดทั้งปี ยอดขายรถยนต์ในตลาดสหรัฐโดยรวมน่าจะอยู่ที่ระดับ 14.9 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับปี 2020 ขณะที่ในภาวะปกติที่ไม่มีโรคระบาดอย่างโควิด-19 ยอดขายรถยนต์จะอยู่ที่ประมาณปีละกว่า 16 ล้านคัน