ตลาดสองล้อเริ่มคึกคัก ค่ายใหญ่เอ.พี.ฮอนด้า - ยามาฮ่า เปิดแผนงานรุกปี 2565 โดยเฉพาะค่ายผู้นำอย่างเอ.พี.ฮอนด้า ที่ปีนี้ประกาศกร้าวจะโกยยอดขาย 1,300,598 คัน เติบโตประมาณ 5% ซึ่งเป้าหมายที่วางไว้ จะถูกขับเคลื่อนผ่านกลยุทธ์หลัก 3 ข้อ ได้แก่
1.เปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ โดยในปีนี้จะเปิดตัวรถจยย.รุ่นใหม่ 7-8 รุ่น
2.การบริหารจัดการ โดยเฉพาะวัตถุดิบ อาทิ เหล็กที่มีราคาสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทฯพยายามลดต้นทุนในส่วนอื่นๆเพื่อไม่ให้มีผลกับราคา ซึ่งจะกระทบกับผู้บริโภค แต่หากต้องปรับราคาก็จะปรับให้น้อยที่สุด
3.แผนงานด้านบริการหลังการขาย เพื่อดูแลลูกค้า - ผู้ใช้งานสร้างความพึงพอใจสูงสุด นอกจากนั้นแล้วในส่วนของการขาย จะนำออนไลน์เข้ามาใช้มากขึ้น โดยจะใช้เครือข่ายร้านค้าที่มีจำนวน 1,257 แห่งทั่วประเทศนำ
นาย ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวว่า ในปี 2565 บริษัทฯเตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ประมาณ 7-8 รุ่น โดยลูกค้าจะได้สัมผัสรถรุ่นใหม่ในช่วงมอเตอร์โชว์ 2022 ในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ขณะที่แผนงานเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ยังไม่มีกำหนดการวางขาย แต่ในเบื้องต้นจะเป็นการจับมือกับหน่วยงานต่างๆเพื่อศึกษาและทดลองก่อน
"รถจยย.ไฟฟ้าของฮอนด้า เราเริ่มตั้งแต่ปี 2018 โดยจับมือกับสถาบันการศึกษาอย่าง มจธ. บางมด เพื่อทำการทดลอง ส่วนล่าสุดก็เพิ่งจับมือกับดีทแฮล์ม ซึ่งเรายืนยันว่าเราจับตามองโปรเจคพวกนี้อย่างใกล้ชิด และประเมินว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะพิจารณากันอีกครั้ง แต่ในเบื้องต้น การขายนั้นยังไม่มีกำหนด เพราะต้องดูเรื่องเทคโนโลยี เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน "
นาย คิมูระ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากแผนงานเกี่ยวกับโปรดักส์รุ่นใหม่ๆรวมถึงการจับตามองเทรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า อีกหนึ่งแผนงานที่บริษัทฯได้เน้นในตอนนี้คือ เร่งผลิตรถเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า ซึ่งในปีที่ผ่านมามีแบคออเดอร์จำนวนมาก โดยคาดว่าภายในไตรมาสแรกของปีนี้ จะสามารถเครียล์สต๊อกดังกล่าวให้เรียบร้อยได้
คาดตลาดรถจยย.ปี 65 ฟื้นตัว เติบโต 2 %
ในปี 2565 ฮอนด้าคาดการณ์ว่าตลาดรถจักรยานยนต์ไทยจะเติบโตต่อเนื่องโดยมีปัจจัยบวก อาทิ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการปรับตัวของคนไทยส่วนใหญ่ที่เริ่มกลับมาดำเนินชีวิตภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ได้แล้ว โดยฮอนด้าประเมินว่าตลาดรวมจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1,644,391 คัน เติบโตขึ้น 2% ส่วนฮอนด้าตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 1,300,598 คัน หรือเติบโตสูงกว่าตลาด อยู่ที่ประมาณ 5%
ขณะที่ปี 2564 ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ไทยมีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้น โดยมียอดรวมทั้งสิ้น 1,611,078 คัน เติบโต 6% ส่วนฮอนด้ามียอดขายอันดับหนึ่งเป็นปีที่ 33 ติดต่อกัน ด้วยยอดจดทะเบียน 1,236,476 คัน
ควบรวมบริษัทฯเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานตอบสนองลูกค้า
ในปีที่ผ่านมา ฮอนด้าได้ประกาศควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด, บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด, และ บริษัท เอชพีดี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแชร์โฮลดิ้ง โดยก่อตั้งเป็นบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อว่า บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รวมถึงผลิตเครื่องยนต์อเนกประสงค์ เริ่มดำเนินกิจการตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2564
สำหรับบริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด สามารถผลิตรถจักรยานยนต์ปีละ 1.76 ล้านคัน แบ่งเป็นสัดส่วนในการผลิตเพื่อตลาดในประเทศอยู่ที่ 82% ตลาดต่างประเทศ 18% และสามารถผลิตเครื่องยนต์อเนกประสงค์ได้ปีละ 2.7 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นการผลิตเพื่อตลาดในประเทศ 7% และตลาดต่างประเทศอีก 93%
นายคิมูระ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีที่ผ่านมามีการควบรวมบริษัทฯโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ มีการทำงานสอดคล้องและรวดเร็วขึ้น ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ โดยทุกส่วนจะทำงานภายใต้องคาพยพเดียวกัน ทั้งนี้เพื่อจะได้ ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ
"ปีที่ผ่านมา เราได้ควบรวมฝ่ายผลิตและฝ่ายขายเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อดึงศักยภาพของทั้งสองฝ่ายมาตอบสนองความต้องการของตลาด โดยในวันนี้เราสามารถปรับไลน์การผลิตให้เข้ากับสถานการณ์ได้รวดเร็วขึ้น และสามารถส่งมอบบริการหลังการขายได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นเช่นกัน”