แนะเทคนิค 7 ข้อช่วยประหยัดน้ำมัน เคล็ดลับก่อนเดินทางวันหยุดยาว

09 เม.ย. 2565 | 12:53 น.
อัปเดตล่าสุด :09 เม.ย. 2565 | 20:05 น.

"ควิกเลน"เปิดเทคนิค 7 ข้อช่วยรถประหยัดน้ำมัน เคล็ดลับก่อนเดินทางรับวันหยุดยาวสงกรานต์ 2565 พร้อมจัดโปรโมชันบริการตรวจสภาพรถฟรี 30 รายการ

วันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ 2565 ที่ใกล้เข้ามา หลายคนคงเตรียมตัวเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่ไทยกับครอบครัว ขณะที่อีกหลายคนวางแผนพาครอบครัว หรือชวนเพื่อนฝูงไปออกโรดทริปท่องเที่ยวรับหน้าร้อนด้วยกัน แต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจทำให้ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น 

 

วันนี้ "ควิกเลน"จึงนำเสนอเทคนิคในการเตรียมรถคู่ใจให้พร้อมสำหรับการเดินทาง ที่จะทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างสบายใจหายห่วง โดยประหยัดทั้งน้ำมันและเงินในกระเป๋าไปพร้อมกัน ซึ่งเทคนิค 7 ข้อมีดังนี้

 

1.เลือกใช้น้ำมันเครื่องสูตรประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

 

น้ำมันเครื่องที่ราคาเข้าถึงได้ ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเสมอไป ควรเลือกใช้น้ำมันที่ผู้ผลิตรถยนต์แนะนำตามคู่มือการใช้รถ โดยน้ำมันเครื่องความหนืดต่ำจะช่วยลดแรงเสียดทานของชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ ซึ่งจะช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น การใช้น้ำมันเครื่อง Omnicraft สังเคราะห์แท้ 100% 5W-30 ที่สามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึงร้อยละ 2.5* ทีเดียว โดยอ้างอิงจากมาตรฐานการทดสอบ CEC L-54-96 (M111)

2.ใช้ยางรถยนต์ที่ช่วยประหยัดน้ำมัน

คนรักรถอาจมีรสนิยมในการเปลี่ยนยางที่หน้ากว้างขึ้น เพื่อเพิ่มเอกลักษณ์ให้กับรถคู่ใจ หรือช่วยเพิ่มสมรรถนะที่ดีในการเกาะถนนและระยะการเบรกที่สั้นลง แต่รู้หรือไม่ว่าแรงเสียดทานที่เกิดจากหน้ายางที่กว้างกว่าขนาดมาตรฐาน ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้รถใช้น้ำมันในการขับเคลื่อนมากขึ้น ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่เปลี่ยนยางใหม่ ควรเลือกใช้ยางขนาดมาตรฐาน นอกจากนั้น การเลือกใช้ยางที่มีคุณสมบัติช่วยประหยัดน้ำมัน ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง

 

3.ดูแลความดันลมยางให้พร้อม

ยางรถยนต์ที่มีลมยางเหมาะสม ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันและทำให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนอย่างเต็มที่ มอบความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ รถที่มีความดันลมยางในปริมาณที่พอดีสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลมากขึ้นสูงสุดถึงร้อยละ 3

 

อย่าลืมตรวจเช็กลมยางให้มั่นใจทุกครั้งที่เติมน้ำมันเชื้อเพลิงหรืออย่างน้อยทุกๆ 2 สัปดาห์ โดยสามารถดูค่าความดันลมยางที่แนะนำจากป้ายความดันลมยางที่ข้างเสาประตูรถหรือจากคู่มือการใช้รถ และควรตรวจสอบลมยางในขณะที่ยางเย็น (จอดรถทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชม.หรือขับขี่มาไม่เกิน 1.6 กม.)

 

อย่างไรก็ตาม ถ้ามีความจำเป็นต้องตรวจสอบขณะที่ยางมีอุณหภูมิสูง ควรเพิ่มความดันลมยางไปจากค่ามาตรฐานประมาณ 3 ปอนด์ต่อตารางเมตร อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยรักษาความดันลมยางให้สม่ำเสมอคือการเติมลมยางด้วยไนโตรเจน ซึ่งจะช่วยลดโอกาสที่ลมยางจะลดลงซึ่งแตกต่างจากการเติมลมยางแบบปกติ ลดความถี่ในการตรวจสอบลมยางให้น้อยลง

 

 

แนะเทคนิค 7 ข้อช่วยประหยัดน้ำมัน เคล็ดลับก่อนเดินทางวันหยุดยาว
 

4.ลดน้ำหนักบรรทุกและอุปกรณ์ตกแต่งที่ไม่จำเป็น

แร็คหลังคา แผงกันสาดกระจกประตู แผงกันแมลงฝากระโปรงหน้า หรืออุปกรณ์แต่งรถที่ไม่ได้คุณภาพจะเพิ่มแรงต้านทานอากาศระหว่างการขับขี่ หรือแม้กระทั่งสัมภาระในรถที่ไม่จำเป็นก็จะไปเพิ่มน้ำหนักรถ ทำให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้น

 

ดังนั้น หากต้องการลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันควรจัดสัมภาระเท่าที่จำเป็น ถอดแร็คหลังคาออกในกรณีที่ไม่ได้ใช้งานและเหลืออุปกรณ์แต่งรถให้น้อยที่สุดหรือเลือกอุปกรณ์ตกแต่งรถของแท้ที่ได้ถูกออกแบบและทดสอบเพื่อช่วยลดแรงต้านทานอากาศไม่ให้สูงจนเกินไป

 

5.เปิดแอร์อย่างมีเทคนิค

ถึงแม้อากาศภายนอกจะอบอ้าว แต่การอดทนเปิดกระจกรับลมสักครู่ตอนออกรถเพื่อไล่ลมร้อนจะช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง และห้องโดยสารเย็นเร็วขึ้น ขณะเดียวกันก็ไม่ควรตั้งอุณหภูมิไว้ให้เย็นเกินไป และควรใช้สวิตช์หมุนวนอากาศภายใน เพื่อไม่ให้อากาศร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในตัวรถ

 

หากรู้สึกว่าแอร์ในรถไม่เย็น ท่านสามารถตรวจสอบระบบแอร์ที่ศูนย์บริการยางและรถยนต์ ควิกเลน เพื่อตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำยาแอร์และเติมน้ำยาแอร์ให้ได้ระดับมาตรฐาน พร้อมทั้งเปลี่ยนไส้กรองอากาศแอร์ตามระยะที่กำหนดก่อนออกทริป

 

6.ขับช้า ดีกว่าผลาญไว

ยิ่งเร่งคันเร่งมากเท่าใด ก็ยิ่งเผาผลาญเชื้อเพลิงไปมากเท่านั้น และไม่แนะนำให้เร่งเครื่องขณะสตาร์ทรถ กระทรวงพลังงานได้ให้คำแนะนำในการขับรถอย่างประหยัดน้ำมันไว้ว่าควรขับรถไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยไม่จำเป็น และควรรักษาความเร็วของรถให้สม่ำเสมอ เพราะการที่ปรับเปลี่ยนความเร็วของรถขึ้นๆลงๆอยู่ตลอดเวลา เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รถกินน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับรถที่มีระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ (Cruise Control) ขอแนะนำให้ใช้ในเวลาเดินทางไกลเพื่อช่วยควบคุมความเร็วและประหยัดน้ำมันในเวลาเดียวกัน

 

7.ตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทาง

วิธีที่จะทำให้มั่นใจได้มากที่สุดว่ารถจะพาออกเดินทางไกลได้อย่างปลอดภัย และประหยัดค่าใช้จ่าย คือการหมั่นนำรถเข้าตรวจเช็กสภาพและบำรุงรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ การนำรถที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจสอบหรือเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรองอากาศ ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง ไส้กรองอากาศแอร์ รวมถึงระบบต่างๆ สามารถลดการกินน้ำมันได้ถึงร้อยละ 4 นอกจากนั้นยังสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการดูแลรักษารถก่อนเดินทาง ถือโอกาสเปลี่ยนอะไหล่เพื่อความพร้อมในการเดินทางที่ราบรื่นอีกด้วย

 

 

สำหรับควิกเลน เป็นศูนย์บริการยางและรถยนต์ประเภทเร่งด่วน พร้อมให้บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์เบื้องต้น  30 รายการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่การตรวจสภาพยาง เบรค แบตเตอรี่ ใบปัดน้ำฝน น้ำมันหล่อลื่น ไส้กรอง ระบบเกียร์และเฟืองท้าย ระบบบังคับเลี้ยว โช๊คอัพ และระบบช่วงล่างรถยนต์ โดยลูกค้าที่สนใจสามารถเข้ารับบริการตรวจสภาพรถฟรี 30 รายการได้ที่ควิกเลนทั้ง 15 สาขาทั่วประเทศ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-20.00 น. 
 

ควิกเลน บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์เบื้องต้น  30 รายการ