โตโยต้า เดินหน้าลุยรถพลังงานไฮโดรเจนในไทย พร้อมนำเข้า Toyota Mirai FCEV มาทดลองวิ่งในจังหวัดชลบุรี-ระยอง เดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะที่ปตท.เตรียมเปิดสถานีเติมไฮโดรเจน นำร่องที่เมืองพัทยา ก่อนที่กลางเดือนธันวาคมจะนำ Toyota Corolla เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ใช้ไฮโดรเจนแทนนํ้ามัน มาเข้าร่วมแข่งขันเอ็นดูรานซ์ ที่ จ.บุรีรัมย์
ตามวิสัยทัศน์ของ “โตโยต้า” ที่ต้อง การพัฒนารถยนต์ที่ปล่อยไอเสียตํ่าในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้ง อีวี, ไฮบริด, ปลั๊ก-อินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิงเติมไฮโดรเจน (FCEV) รวมถึงกำลังพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน ซึ่งไม่ปล่อย CO2 เช่นกัน สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลญี่ปุ่นที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral)
ตามที่ “โตโยต้า” เคยประกาศแผนการลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท เพื่อพัฒนา EV รุ่นใหม่ และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า โดยวางแผนเปิดตัว EV รวม 30 รุ่น ภายในปีพ.ศ. 2573 และตั้งเป้าขาย 3.5 ล้านคันทั่วโลกภายในปีดังกล่าว ส่วนประเทศ ไทยเตรียมนำเข้า Toyota bZ4X เอสยูวีพลังงานไฟฟ้ามาทำตลาดในปีนี้ (ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท) โดยเข้าร่วมกับโครงการของภาครัฐ เพื่อรับเงินสนับสนุนและภาษีอัตราพิเศษ
ทว่าในภาพใหญ่ของการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ยังพยายามแสวงหาทางเลือกอื่นๆ ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิงเติมไฮโดนเจน (FCEV) และของใหม่ที่เป็นลูกรักของ “อากิโอะ โตโยดะ” คือรถ ICE ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน
ส่วน FCEV มีรถทำตลาดแล้วคือ Toyota Mirai ซึ่งโฉมใหม่เจเนอเรชันที่ 2 ทำยอดขายทั่วโลกได้ประมาณ 1 หมื่นคัน (ถ้ารวมเจเนอเรชันแรกด้วยขายไป 22,000 คัน) หลังการเปิดตัวไปได้ 2 ปี ในจำนวนนี้ 50% ขายในประเทศญี่ปุ่น (ราคาเริ่มต้นประมาณ 7 ล้านเยน แต่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำให้บางจังหวัดขายได้ในราคา 2.4 ล้านเยนเท่านั้น)
ดังนั้น เพื่อสร้างการรับรู้ของ FCEV โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย (ทีเอ็มที) เตรียมนำเข้า Toyota Mirai มาทดลองวิ่งในภาคตะวันออกของไทย ภายใต้โมเดลการจัดตั้งเมืองที่ยั่งยืนโดยปราศจากมลภาวะ Decarbonized Sustainable City ที่ “ทีเอ็มที” ร่วมกับเมืองพัทยา ผลักดันให้เกิดสังคมการปล่อยมลภาวะเป็นศูนย์ (Zero-emission Society)
ภายใต้โครงการนี้โตโยต้าจะนำเข้า Toyota Mirai จำนวน 2 คันมาวิ่งใช้งานในไทย ส่วนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับ FCEV รุ่นนี้ยังสอดคล้องกับแผนงานของปตท. ที่เตรียมเปิดสถานีเติมไฮโดรเจนที่เมืองพัทยา ซึ่งร่วมมือกับ บริษัท บางกอก อินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด (BIG) ผู้ซัพพลายไฮโดรเจนรายใหญ่ของไทย
นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โตโยต้า คิดค้นนวัตกรรมและเทคโนโลยียานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับการเดินทางในทุกรูปแบบ ทั้ง Hybrid Electric Vehicles (HEVs), Plug-in Hybrid Electric Vehicles (PHEVs), BEV และ Fuel Cell Electric Vehicles (FCEVs) ซึ่งการจะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทยนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่เพียงแต่อุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงต้องพิจารณาถึงรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้รถเป็นหลัก
“ภายใต้โครงการนี้จะเป็นโอกาสดีที่เราจะได้รับฟังความคิดเห็นที่ผู้ใช้งานจริงมีต่อรถยนต์ไฟฟ้าของเรา และหวังว่าโครงการนี้จะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดต่อเมืองพัทยา พี่น้องประชาชน และผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อเป็นต้นแบบในการขยายผลสู่ จังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทยต่อไป” นายยามาชิตะ กล่าว
มากไปกว่านั้น ในโอกาสที่ปี 2565 โตโยต้าครบรอบการดำเนินธุรกิจ 60 ปีในประเทศ ไทย ยังจัดอีเวนต์ใหญ่โดยยกทีม ORC ROOKIE Racing มาลงแข่งแบบเอ็นดูรานซ์ 25 ชั่วโมง ด้วย Toyota Corolla เครื่องยนต์ไฮโดรเจน ขนาด 1.6 ลิตร และสปอร์ตคาร์ Toyota GR86 CNF Concept ที่ใช้พลัง e Fuel (ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน) ที่สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์
ปัจจุบันรถยนต์ทั้งสองรุ่นของโตโยต้า ลงแข่งขันในรายการ Super Taikyu Series ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีซูบารุส่งรถต้นแบบ Team SDA Engineering BRZ CNF Concept และมาสด้าส่งต้นแบบ MAZDA SPIRIT RACING Bio concept DEMIO (มาสด้า 2) ที่ใช้เชื้อเพลิงไบโอดีเซลรุ่นล่าสุดมาทำการแข่งขันด้วย