ข่าวร้ายอุตสาหกรรม EV เตือนโลกใกล้ขาดแคลน “ลิเธียม” ในสองปีข้างหน้า

29 ส.ค. 2566 | 23:38 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ส.ค. 2566 | 00:10 น.

นักวิเคราะห์คาดโลกอาจเผชิญปัญหาการขาดแคลน “ลิเธียม” วัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างเร็วที่สุดคือภายในปี 2568

 

อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อาจต้องเผชิญกับ ปัญหาการขาดแคลนลิเธียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญสำหรับ การผลิตแบตเตอรี่ เนื่องจากอุปสงค์เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยนักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่าปัญหานี้อาจเกิดขึ้นอย่างเร็วสุดคือภายในปี 2568

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี สื่อใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยรายงานที่จัดทำโดยบริษัทวิจัย บีเอ็มไอ (BMI) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยของฟิทช์ โซลูชันส์ ฉบับหนึ่งที่คาดการณ์ว่า อุปทานลิเธียมจะขาดดุลภายในปี 2568 หรือเพียงอีกสองปีข้างหน้า โดยการขาดดุลนั้นเกิดจากอุปสงค์ลิเธียมของจีน จะสูงกว่าอุปทาน ทั้งนี้ มีตัวเลขประมาณการว่า ความต้องการใช้ลิเธียมในอุตสาหกรรม EV ของจีนจะเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยกว่า 20% ในระยะ 10 ปีข้างหน้า

"เราคาดว่าอุปสงค์ลิเธียมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีนจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 20.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงปี 2566-2575" รายงานของ BMI ระบุ

ความต้องการใช้ลิเธียมในอุตสาหกรรม EV ของจีนจะเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยกว่า 20% ในระยะ 10 ปีข้างหน้า

รายงานระบุว่า ขณะที่อุปสงค์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง แต่ในฟากอุปทานพบว่า อุปทานลิเธียมของจีนจะเพิ่มขึ้นเพียง 6% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งอัตราดังกล่าวไม่สามารถตอบสนองต่ออุปสงค์ที่คาดการณ์ไว้ได้แม้แต่ 1 ใน 3 ของความต้องการ

ทั้งนี้ จีนเป็นผู้ผลิตลิเธียมรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ซึ่งลิเธียมเป็นองค์ประกอบสำคัญของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV)

รายงานของ BMI ระบุว่า โลกผลิตลิเธียมได้ 540,000 ตันในปี 2564 และการประชุมเศรษฐกิจโลก (WEF) คาดการณ์ว่า อุปสงค์ลิเธียมทั่วโลกจะสูงในระดับมากกว่า 3 ล้านตันภายในปีพ.ศ. 2573

ขณะเดียวกัน การคาดการณ์จากเอสแอนด์พี โกลบอล คอมโมดิตี อินไซต์ส (S&P Global Commodity Insights) ระบุว่า

  • ยอดขายรถยนต์ EV มีแนวโน้มแตะ 13.8 ล้านคันในปี 2566
  • แต่หลังจากนั้นจะพุ่งขึ้นเป็น 30 ล้านคันภายในปี 2573

โลกผลิตลิเธียมได้ 540,000 ตันในปี 2564 และจีนเป็นผู้ผลิตอันดับสามของโลก

"เราเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมลิเธียมจะเผชิญปัญหาขาดแคลนลิเธียม โดยเราคาดการณ์ว่าอุปทานจะขยายตัวอย่างแน่นอน แต่อุปสงค์ก็มีแนวโน้มจะเติบโตแซงหน้าอย่างมีนัยสำคัญ" คอรินน์ บลังชาร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยลิเธียมและเทคโนโลยีสะอาดของธนาคารดอยซ์แบงก์กล่าว และยังคาดการณ์ด้วยว่า ภายในสิ้นปี 2568 จะขาดแคลนลิเธียมคาร์บอเนตเล็กน้อยที่ประมาณ 40,000-60,000 ตัน แต่หลังจากนั้น คาดว่าปัญหาการขาดดุลอุปทานลิเธียมจะสาหัสขึ้น จนแตะระดับ 768,000 ตันภายในสิ้นปี 2573

ข้อมูลอ้างอิง