รถจีน King Long จับมือ TTA ส่งกระบะ EV จับธุรกิจขนส่ง-ทำรถสองแถว
บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จับมือ คิง ลอง (King Long) บุกตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ในไทย ประเดิมด้วย "รถกระบะ EV King Long" ตัวถังตอนเดียว ตั้งเป้าขายปีแรก 1,000 คัน
บริษัท เซี่ยเหมิน คิง ลอง ยูไนเต็ด ออโตโมทีฟ อินดัสตรี จำกัด แต่งตั้ง บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ให้เป็นดิสทริบิวเตอร์ ดูแลตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ในไทย เตรียมเปิดตัวรถกระบะ EV ที่นำเข้าจากจีนเป็นโมเดลแรก แต่ยังไม่เปิดเผยชื่อรุ่น สเปก และราคารถกระบะ EV King Long รุ่นนี้
สำหรับรถกระบะ EV ของ King Long จะประเดิมทำตลาดด้วยรุ่นตัวถังตอนเดียว หวังจับกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนส่ง หรือไปต่อเติมวิ่งเป็นรถสองแถวรับส่งผู้โดยสารที่มีระยะทางประจำ ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ของการดำเนินธุรกิจจะมีการจัดงานแถลงข่าวอีกครั้ง
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยว่า รถกระบะไฟฟ้า King Long จะเริ่มทำตลาดในปีนี้ เป็นรถกระบะเพื่อการพาณิชย์ขนาด 1 ตัน โดยโมเดลแรกที่จะเปิดตลาด จะเป็นรถกระบะตอนเดี่ยว มุ่งเจาะไปที่กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนส่ง โลจิสติกส์ ในไทย ซึ่งจะจำหน่ายทั้งแบบฟลีทและขายปลีก
“เราเริ่มจากรุ่นที่มีความต้องการสูงสุดก่อน นั่นคือรถเพื่อการพาณิชย์ แล้วจึงค่อยๆ ขยายให้ครบทุก เซกเมนท์ในภายหลัง”
การเข้าสู่ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้านับเป็นก้าวที่สำคัญของเรา ในการต่อยอดประสบการณ์ด้านการขนส่งและ โลจิสติกส์ของ TTA เราได้จัดตั้ง บริษัท พี80 โก จำกัด (P80 Go) เพื่อเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ และเป็นผู้จัดจำหน่ายรถกระบะไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ King Long รถกระบะไฟฟ้า King Long ที่ TTA และ King Long
บริษัท พี80 โก จำกัด เปิดโชว์รูมรถกระบะไฟฟ้า King Long แห่งแรกในย่านรองเมืองไปเรียบร้อยแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการคัดเลือกพันธมิตรตัวแทนจำหน่าย เพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยในไม่ช้านี้
นายหลิว จื้อ จวิน ประธานกรรมการ บริษัท เซี่ยเหมิน คิง ลอง ยูไนเต็ด ออโตโมทีฟ อินดัสตรี จำกัด กล่าวว่า ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีศักยภาพที่สูงมากไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล รถเพื่อการพาณิชย์ และยานยนต์ประเภทอื่นๆ
สำหรับรถกระบะไฟฟ้า EV เพื่อการพาณิชย์ที่เราจะนำมาบุกตลาดนั้น เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้งานที่เหมาะสมของตลาดไทย ที่ต้องการ ความประหยัด ความทนทาน ความคุ้มค่า และมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ โดยเราตั้งเป้าหมายในการจำหน่ายไว้ที่ 1,000 คัน ในปีแรกที่เปิดตลาด