EVAT ดันไทยสู่ฐานการผลิตและส่งออกยานยนต์ไฟฟ้า

05 ก.ย. 2567 | 09:27 น.
อัพเดตล่าสุด :05 ก.ย. 2567 | 09:39 น.

EVAT สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ประกาศดันไทยสู่ฐานการผลิตและส่งออกยานยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้าดัน EV สู่โปรดักส์แชมเปียนส์

หลังจากสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย หรือ EVAT ได้ทำการแต่งตั้งนายกฯคนใหม่เมื่อวันที่ 13 ก.ค.67 ล่าสุด "สุโรจน์ แสงสนิท" นายกฯสมาคมคนใหม่ ก็ได้มีการประกาศเป้าหมายด้วยการให้ประเทศไทยเป็นฐานผลิตและส่งออกยานยนต์ไฟฟ้า 

 

นายสุโรจน์ แสงสนิท นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เปิดเผยว่า ภายใต้เป้าหมายดังกล่าว สมาคมฯได้มองเห็นโอกาสทางการตลาดโดยเฉพาะการส่งออกไปยังตลาดยุโรป ซึ่งหากสามารถเจาะตลาดยุโรป หรือตลาดอื่นๆที่เป็นพวงมาลัยขวาได้ก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยให้เดินหน้าต่อไปได้ในอนาคต 

นายสุโรจน์ แสงสนิท นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย

"จากการที่จีนมีปัญหาไม่สามารถส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าไปขายที่ยุโรปได้ ดังนั้นเรามองว่าตรงนี้เป็นโอกาสที่ไทยจะสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและส่งไปขายในยุโรปแทนได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นภาครัฐฯจะต้องมีมาตรการสนับสนุนดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้ลงทุนในไทย ให้มาร่วมมือกับผู้ประกอบการในไทย จับมือกันแบบ Joint Venture "

 

 

ด้านนายสยามณัฐ พนัสสรณ์ อุปนายกฝ่ายอุตสาหกรรม และการพัฒนาธุรกิจ เปิดเผยว่า สมาคมฯมีพันธกิจคือการส่งเสิรมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการใช้ชิ้นส่วนและซัพพลายเชนในไทย โดยมุ่งหวังว่าไทยจะเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกรถไฟฟ้าและเป็นอีกหนึ่งโปรดักส์ แชมเปียนส์ สร้างรายได้ให้ประเทศเช่นเดียวกับรถปิกอัพที่ทำได้ 

นายสยามณัฐ พนัสสรณ์ อุปนายกฝ่ายอุตสาหกรรม และการพัฒนาธุรกิจ

 

จากพันธกิจดังกล่าวทำให้สมาคมฯได้พูดคุยกับบีโอไอและสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย TAPMA ในการส่งเสริมการผลิต นอกจากนั้นแล้วยังได้ร่วมกับบีโอไอ ในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในธุรกิจ EV หรือ Ecosystem ในไทยอีกด้วย 

นายสุโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่สมาคมฯเตรียมขับเคลื่อนนอกเหนือจากนี้ คือการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าแบบรอบด้าน ความปลอดภัยของโครงสร้างพื้่นฐาน อาทิ สถานีชาร์จ รวมไปถึงการรวมแอปฯของเหล่าสถานีชาร์จให้เป็นแอปฯเดียวกัน เพื่อความสะดวกและค่าบริการที่มีมาตรฐาน 

 

"ปัจจุบันสมาคมฯทำสำเร็จคือการรวมโรมมิ่งแอปฯสำหรับชาร์จไฟของการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งไม่ว่าจะเป็น กฟน. กฟภ.และกฟผ.ให้มารวมเป็นแอปฯเดียว แต่เป้าหมายในอนาคตคือการรวมของทุกอันให้มาอยู่ในแอปกลางแอปฯเดียว"

 

นายสุโรจน์ กล่าวว่า นอกเหนือจากเป้าหมายและแผนงานที่เตรียมขับเคลื่อนในอนาคต แผนงานปัจจุบันแบบเร่งด่วน ที่สมาคมฯจะหารือและต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือในตอนนี้คือการแก้ไขหนี้ครัวเรือน ที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ กระทบต่อการซื้อขายรถยนต์ เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ  ทั้งนี้ตัวเลขการขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ในช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านทำได้ประมาณ 50,000 -60,000 คัน คาดว่าทั้งปีจะอยู่ที่ 80,000 คัน ต่ำกว่าที่เป้าหมายที่เคยประมาณการกันไว้ที่ 100,000 คัน 

สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย

 

ส่วนกรณีการแข่งขันของรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันที่ผู้บริโภคอาจเกิดความกังวลใจว่าจะปรับลดราคากันอีกหรือไม่ และหลายคนอาจจะมองว่าเป็นสงครามราคา หรือการดัมพ์ราคา ตรงนี้มองว่าเป็นกลไกทางการตลาด