"น้ำท่วม" คำหนึ่งคำที่กำลังเป็นที่เอ่ยถึงอย่างมาก หลังจากที่สถานการณ์ หรือระดับปริมาณน้ำในขณะนี้เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก
คำถามที่สำคัญเวลานี้ก็คือ "กรุงเทพมหานคร" หรือ กทม. จะถูกน้ำท่วมหรือไม่ เมื่อน้ำจากภาคเหนือไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง
นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว (Sunt Srianthumrong) โดยมีข้อความว่า
น้ำท่วมประเทศไทย: กราฟและตัวเลขที่ทำให้ดูไม่น่าสบายใจนัก
ปีนี้ 2565 ตัวเลขต่างๆค่อนข้างชัดแล้วนะครับว่า น้ำมากที่สุดในรอบ 10 ปี บางทีผมว่ารัฐบาลก็ Downplay น้ำท่วมปีนี้ไปหน่อยโดยเน้นว่ายังไม่ถึงขั้นปี 54 ทั้งๆที่ถ้ามันมากที่สุดในรอบ 10 ปีโดยไม่ต้องขนาดปี 54 ก็ทำให้เกิดความเดือนร้อนได้มาก เสียหายได้มาก และประชาชนสมควรที่จะถูกเตือนภัยมากกว่านี้
น้ำในภาคอีสาน:
ณ จุดนี้ แม้หลายพื้นที่ในประเทศโดยรวมยังไม่ถึงปี 54 แต่ภาคอีสานทั้งหมด ทุกเขื่อนใหญ่ ทั้งเขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนสิรินธร เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนลำตะคอง ทั้งหมดล้วนทะลุ Upper Rule Curve และเข้าสู่ระดับน้ำเดียวกับปี 54 ทั้งหมดแล้ว บางเขื่อนเช่นเขื่อนอุบลรัตน์อาจจะหนักกว่าด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่ภาคอีสานท่วมสาหัสมาก
ปัญหาจากนี้คือ เมื่อปี 54 พายุลูกสุดท้ายคือ นาลแก เข้ามา 3 ต.ค. จากนั้นไม่มีแล้ว แต่ปีนี้ถ้ายังไม่จบ ถ้ายังมีเข้ามาอีกสักลูกจะเกิดอะไรขึ้นที่ภาคอีสานนี้ น่าจะต้องมีคำตอบ และต้องมีแผน
ภาคกลางและกทม. ตัวเลขและกราฟที่น่ากังวล:
เดิมพันและความเสี่ยงตอนนี้:
ปี 2554 พายุลูกสุดท้ายคือ นาลแก วันที่ 3 ต.ค. 2554 ถ้าดูช่วงเวลาเดียวกันกับปีนี้แล้วเทียบว่ายังโอเค ผมว่าชักจะไม่โอเคแล้ว เพราะปีนี้พายุอาจจะยังไม่หมด เรายังไม่รู้ว่า มันจะ"น้อยกว่า"หรือว่ามัน"มาช้า"
พูดง่ายๆก็คือ ตอนนี้ เราอย่าได้มีพายุเข้ามา ไม่งั้นผมว่าเป็นเรื่องแน่
น้ำท่วมปีนี้ ถ้าโชคดีซึ่งก็มีโอกาสสูง อาจจะไม่แรงเหมือนปี 54 แต่ก็น่าจะสร้างความเสียหายได้มาก เอาแค่น้ำเหนือที่มีตอนนี้หลากลงมาถึงปริมณฑล จ่อคอหอยกทม. พร้อมๆน้ำฝนสัก 120 มม. น้ำทะเลหนุนอีกสักหน่อยก็น่าจะหนักพอสมควรแล้ว
แต่ถ้าสภาวะอากาศโหดร้าย พายุเข้ามาอีกสัก 2 ลูก ก็เห็นทีจะตัวใครตัวมันครับ หวังจริงๆครับว่าพายุจะหมดแล้วแค่นี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครอง แล้วพวกเราก็แคล้วคลาด