วันที่ 6 ตุลาคม 2565 กรมอุตุนิยมวิทยาออกมาชี้แจงแถลงไข หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพและข้อความ ปรากฎผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ว่า "แนวโน้มพายุลูกถัดไปจะก่อตัวในวันที่ 12 ตุลาคม...คาดว่าน่าจะใช้ชื่อว่า"เนสาท"เส้นทางเดินจะทำให้มีผลกระทบทุกภาค โดยภาคอีสานจะได้รับผลกระทบหนักสุดมีเวลาอีกครึ่งเดือนในการพร่องน้ำ"นั้น
จากภาพและข้อความที่เผยแพร่นั้น กรมอุตุนิยมวิทยาขอชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวมิได้มีที่มาจากกรมอุตุนิยมวิทยาและเป็นข้อความที่มาจากบุคคลที่ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบหรือหน่วยงานที่แจ้งเตือนภัยธรรมชาติโดยตรง อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่ความคลาดเคลื่อน
จากการติดตามและคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าในช่วงวันที่ 9- 12 ตุลาคม 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ทำให้บริเวณดังกล่าว มีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งเกิดขึ้นได้ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเชียสกับมีลมแรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งอากาศเย็นดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตัวของพายุ หรือหากมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุแต่โอกาสที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยและมีผลกระทบนั้นมีน้อยมาก และอาจจะอ่อนกำลังลงและสลายตัวก่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามได้ จึงขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลการพยากรณ์อากาศในระยะนี้อย่างใกล้ชิด
ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศร้ายแรงเกิดขึ้น กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศเตือนอย่างเป็นทางการต่อไป โดยหากมีพายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกหรือทะเลจีนใต้และมีแนวโน้มว่าจะเข้าสู่ประเทศไทยหรือส่งผลกระทบต่อประเทศไทย จะประกาศเตือนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน
สำหรับการตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อน ได้กำหนดตามตารางที่จัดเรียงไว้ ตามข้อตกลงที่กรมอุตุนิยมวิทยา RSMC โตเกียวและองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก(WMO) ได้เผยแพร่และปรากฎบนเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งการเรียกขานชื่อพายุที่เกิดขึ้นในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและทะเลจีนใต้ จะขึ้นอยู่กับว่าพายุลูกใดที่เกิดขึ้นก่อน จะได้ชื่อเรียงตามลำดับในตารางดังที่ปรากฎ
หากมีสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยสภาพอากาศ สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน 1182 (ตลอด 24 ชั่วโมง) หรือเฟซบุ๊กกรมอุตุนิยมวิทยาหรือแอปพลิเคชัน Thaiweather และเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา