นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกได้จัดผู้ตรวจการออกตรวจวัดควันดำจากท่อไอเสียของรถบรรทุกและรถโดยสาร ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงการตรวจวัดควันดำบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ
สำหรับผลการตรวจสอบวัดควันดำในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 65 – 31 ม.ค. 66 กองตรวจการขนส่งทางบกได้ตรวจรถบรรทุกและรถโดยสารทั้งหมด จำนวน 40,861 คัน ทั้งนี้มีรถบรรทุกและรถโดยสารที่มีค่าควันดำที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดและถูกสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ “ห้ามใช้” จำนวน 171 คัน
ขณะที่ผลการตรวจสอบวัดควันดำทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 65 – 31 ม.ค. 66 สำนักงานขนส่งแต่ละจังหวัดได้จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจควันดำ โดยได้มีการตรวจรถบรรทุกและรถโดยสาร จำนวน 84,076 คัน ซึ่งมีรถบรรทุกและรถโดยสารที่มีค่าควันดำที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดและถูกสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ “ห้ามใช้” จำนวน 611 คัน
การตรวจรถเช็กสภาพและวิธีแก้ไขรถที่ปล่อยควันดำ
1.ให้ทำความสะอาด หรือเปลี่ยนกรองอากาศใหม่
2.เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามระยะเวลา
3.เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา
4.ปรับตั้งปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงตั้งจังหวะการฉีดเชื้อเพลิงให้ถูกต้อง
5.ตรวจเช็กและปรับตั้งหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นละออง และมีแรงดัน เป็นต้น
ทั้งนี้หากตรวจวัดควันดำด้วยระบบวัดความทึบแสง แล้วมีค่าควันดำเกินร้อยละ 30 หรือตรวจวัดควันดำด้วยระบบกระดาษกรอง แล้วมีค่าควันดำ เกินร้อยละ 40 จะถูกเปรียบเทียบปรับสูงสุด 5,000 บาท และสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ “ห้ามใช้” จนกว่าเจ้าของรถจะนำรถไปแก้ไขสภาพเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดำเกินกำหนด และนำมาตรวจสภาพอีกครั้งจนผ่านการตรวจวัดจึงจะนำไปใช้งานได้
นายเสกสม กล่าวต่อว่า ปัจจุบันปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เป็นปัญหาสำคัญที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่และส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยของประชาชน ซึ่งหนึ่งในสาเหตุสำคัญมาจากควันดำของท่อไอเสียรถยนต์
ส่วนสาเหตุที่มีการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพต่ำ กรองอากาศอุดตัน ทำให้อากาศเข้าไม่เพียงพอ ปรับแต่งปั๊มหัวฉีดไม่เหมาะสม หัวฉีดปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงชำรุด ทำให้การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงไม่เป็นฝอยละเอียด การออกแบบห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และการบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำให้รถยนต์แต่ละคันอาจมีควันดำออกมามาก
นอกจากนี้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานการตรวจวัดค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกและกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ให้สอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานค่าควันดำและวิธีการตรวจวัดที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนด โดยการปรับปรุงมาตรฐานการตรวจวัดค่าควันดำมีสาระสำคัญ ดังนี้
1.กรณีการตรวจวัดควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำระบบวัดความทึบแสง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 (เดิม ร้อยละ 45)
2.หากตรวจวัดควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำระบบกระดาษกรอง ขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระ ค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 40 (เดิม ร้อยละ 50)
สำหรับเกณฑ์การตรวจควันดำใหม่ ได้มีผลบังคับใช้กับการตรวจวัดควันดำรถที่มาดำเนินการตรวจสภาพรถก่อนจดทะเบียน หรือตรวจสภาพรถก่อนชำระภาษีประจำปีที่สำนักงานขนส่ง และสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ทุกแห่งแล้ว