รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กล่าวว่า บพท.ได้ต่อยอดขยายผลการใช้ประโยชน์ขององค์ความรู้ จากงานวิจัยการยกระดับการพัฒนาพื้นที่ ไปสู่การใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม
ด้วยการลงนามความร่วมมือโครงการยกระดับการพัฒนาพื้นที่ด้วยกลไกความรู้และความร่วมมือระดับประเทศ ระหว่าง บพท. กับ มูลนิธิส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) 60 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งองค์กรภาคธุรกิจเอกชนในเครือ ปตท.
“สาระสำคัญของความร่วมมือที่มีการลงนามร่วมกันดังกล่าว จะมุ่งส่งเสริมสนับสนุนให้องค์กรปกครองท้องถิ่น(อปท.) เปลี่ยนสู่ความเป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุณภาพ ผ่านงานวิจัยเชิงพื้นที่ และกระบวนการจัดระเบียบข้อมูลความรู้ด้านการพัฒนาท้องถิ่น ให้เป็นข้อมูลในระบบดิจิทัล
รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของข้อมูลดิจิทัลด้านการพัฒนาเมือง สำหรับให้ผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น ใช้เป็นเครื่องมือในการตัดสินใจ ตลอดจนออกแบบแผนงานโครงการพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับบริบทของแต่ละท้องถิ่น”
รศ.ดร.ปุ่น กล่าวด้วยว่า เอ็มโอยูที่ลงนามร่วมกันข้างต้น เป็นดอกผลจากการที่ บพท. และมูลนิธิส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รวมทั้งสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ได้ร่วมมือกันพัฒนาหลักสูตรประกาศนียบัตรนักพัฒนาเมืองระดับสูง (พมส.) เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมาซึ่งได้รับการตอบสนองอย่างดียิ่ง และได้รับการพิสูจน์แล้วว่า การใช้งานวิจัยตลอดจนทักษะในการใช้ประโยชน์จากข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาท้องถิ่น และนำการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นกับท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง
นายอุดร ตันติสุนทร ประธานมูลนิธิส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือกันนี้ เพื่อมุ่งยกระดับทักษะความรู้ แก่ผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น และยกระดับคุณภาพ ตลอดจนประสิทธิภาพขององค์กรปกครองท้องถิ่น ในการให้บริการแก่ประชาชน
“ทุกวันนี้เรามีเทศบาลนคร 30 แห่ง เทศบาลเมือง 175 แห่ง เทศบาลตำบลกว่า 2,000 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล หรืออบต. อีก 5,300 แห่ง ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ อบต.ทั้งหมด จะถูกยกระดับเป็นเทศบาลตำบล ดังนั้น การลงนามความร่วมมือกันดังกล่าว จึงน่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดี ในการพัฒนาขีดความสามารถและประสิทธิภาพแก่องค์กรปกครองท้องถิ่น เพื่อทำให้ท้องถิ่นเข้มแข็งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีงบประมาณมากขึ้น ถ้าท้องถิ่นเข้มแข็ง ประชาชนจะเป็นสุข”
ด้านนายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือที่มีการลงนามกันดังกล่าว จะเป็นพลังสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนกระบวนการท้องถิ่นปกครองตัวเอง ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านแผนงาน แผนคน และแผนงบประมาณ ให้เกิดขึ้นได้จริง และสนับสนุนให้ท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง
นายวีรวัฒน์ รัตนวราหะ ผู้แทนบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ (เออาร์วี) ซึ่งเป็นกิจการในเครือ ปตท. กล่าวว่า เออาร์วี คือจิ๊กซอว์ด้านเทคโนโลยี ที่จะเข้าไปมีบทบาทในการเสริมคุณภาพ และประสิทธิภาพแก่องค์กรปกครองท้องถิ่น ในการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล และระบบบริหารจัดการข้อมูล ซึ่งจะช่วยยกระดับองค์กรปกครองท้องถิ่น ให้เป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นอัจฉริยะ